ตร.แถลงข่าวการจับกุม 4 ผู้ต้องหา พร้อมนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวก ได้แถลงข่าวการจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว

โดยมีใจความสรุปได้ว่า ผู้ตายและผู้ต้องหาทั้ง 4 คนเป็นเครือญาติกัน โดยผู้ตายมีประวัติทางคดี 5 คดี เป็นคดีลักทรัพย์ 1 คดี และคดีเกี่ยวกับยาเสพติด 4 คดี สำหรับผู้ตายนั้นมีนิสัยเกเรกับญาติๆพี่น้อง และมักจะหาเรื่องดุด่ากับญาติๆเป็นประจำ ส่วนมูลเหตุของการนำไปสู่การฆาตกรรมนั้น มาจากการที่ผู้ตายใช้แก้วปาใส่บ้านนางพา พรหมแก้ว อายุ 77 ปี ผู้เป็นน้องสาวของย่าผู้ตายที่มีบ้านติดกัน ทำให้ผู้ตายมีปากเสียงกับนายวราภรณ์ รอดเนียม อายุ 35 ปี ผู้เป็นบุตรชายนางพาฯ นายสมเกียรติ วระพันธ์ อายุ 44 ปี ผู้เป็นบุตรเขยนางพาฯ นายวีระเดช ช่วยมาก อายุ 43 ปี ผู้เป็นน้าของผู้ตาย (น้องชายของพ่อผู้ตาย) และนายสมคิด ช่วยมาก อายุ 55 ปี ผู้เป็นลุงของผู้ตาย (พี่ชายของพ่อผู้ตาย) ที่เดินทางมาเยี่ยมบิดามารดา ทางด้านนายสมคิดฯเห็นท่าไม่ดีจึงขับรถเก๋งกลับบ้านพักในพื้นที่ ต.แพรกหา อ.ควนขนุน

ต่อมาผู้ต้องหาอีก 3 คนก็ได้มีปากเสียงกับผู้ตายและมีการชกต่อยกันขึ้น จนผู้ตายถูกผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จับมัดมือ มัดเท้า และโทรศัพท์ให้นายสมคิดฯนำร่างผู้ตายนำร่างไปทิ้งในที่เกิดเหตุบนสะพานดังกล่าวกับนายวีระเดชฯ ซึ่งขณะนี้ทาง ตร.ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าผู้ตายจะตายในที่เกิดเหตุหรือมาตายในจุดทิ้งศพในคลอง ก็ต้องรอการพิสูจน์ทางนิติเวชอีกครั้งหนึ่ง แต่ในขณะนี้ทางตำรวจมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือไว้บางส่วนแล้ว เช่น คราบเลือดในรถเก๋ง และคำรับสารภาพของผู้ต้องหาทั้งหมด ในส่วนของการรับสารภาพของนายวีระเดชฯที่สวมใส่ข้อเท้า GM ในช่วงการพักโทษที่บอกกับตำรวจว่าเป็นผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียวนั้น ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งทาง ตร.จะได้ตรวจสอบข้อเท้าของนายวีระเดชฯต่อไป

และตอนบ่ายวันที่ 25 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง (ตำแหน่งรอง ผบก.ภ.จว.พัทลุงทั้ง 3 คน) พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส..ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.กอบโชค เล็กตระกูล ผกก.สภ.ทะเลน้อย พร้อมพวก ได้นำนายสมคิดฯ ผู้ต้องงหาคนที่ 1 และนายวีระเดชฯ ผู้ต้องหาคนที่ 2 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบนสะพานดังกล่าว โดยนายวีระเดชฯได้ใช้ผ้าขาวม้ารัดคอผู้ตายก่อนที่ร่วมกับนายสมคิดฯจะโยนร่างผู้ตายลงไปในคลองบ้านกลาง จากนั้นได้พากันหลบหนี โดยนายสมคิดฯบอกกับตำรวจว่าไม่มีเป้าหมายที่จะนำศพมาทิ้งในจุดเกิดเหตุ แต่เห็นว่าไม่มีคนผ่านจึงร่วมกันโยนศพดังกล่าว

ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า ในการสอบสวนในเบื้องต้นนายสมคิดฯ และนายวีระเดชฯรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาตามความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ แต่นายสมเกียรติฯ และนายวราภรณ์ฯ รับสารภาพเพียงข้อกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ โดยปฏิเสธข้อกล่าวความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ