ตำรวจ ปส.(NSB)จับเครือข่ายยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 12 ล้านเม็ด ไอซ์ กว่า 650 กก.
1 min read
ตำรวจ ปส.(NSB)จับเครือข่ายยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 12 ล้านเม็ด ไอซ์ กว่า 650 กก. พบพฤติกรรมคนร้าย ใช้ระบบขนส่งเอกชน ลำเลียงยาเสพติดเข้าพื้นที่ชั้นในเป็นจำนวนมาก เกิดจากบริษัทเอกชนบาวแห่งไม่ให้ความร่วมมือ
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.66 พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผล.ตร./ผอ.ศอ ปส.ตร. แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ได้ของกลางเป็นยาไอซ์ 650 กก. เคตามีน 30 กก. และยาบ้าอีก 12 ล้านเม็ด
คดีแรก จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย โดยจับกุมนายกฤษณ์ และ นายยิ่งยศ ได้ที่กรุงเทพมหานคร หลังสืบสวนพบว่าเครือข่ายดังกล่าว ใช้วิธีการส่งพัสดุไปกับบริษัทขนส่งเอกชน ในการส่งยาเสพติดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมบริเวณ ถนนในซอยสุภาพงษ์3 แยก8 ลานจอดรถข้างโรงแรมเดอะสปริง ต่อเนื่อง ไปยังบริเวณทางเข้าออกจากสันติภาพลานจอดรถซอยสุภาพงษ์3 พบยาไอซ์ อยู่บนท้ายรถกระบะ 350 กก. และได้ตรวจยึดรถตู้ 1 คัน กระบะ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน จากนั้นได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นคนส่งยาในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อีก1 ราย คือนายบุญเลิศ ก่อนที่จะมีการขยายผลจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุต่อไป

คดีที่2 ตำรวจปส.3 ร่วมกับหน่วยAITF จับกุมผู้ต้องหาชาวเวียดนาม คือ นายฟาน ทันกวิ๊ และนายโฮ ตรุง เงียน พร้อมของกลาง เคตามีน143 กรัม และเอ็กซ์ตาซี่ 150 กรัม เคตามีนอีก 29 กิโลกรัม รวมทั้งเงินสด 51,000 บาท ได้ที่บริเวณโรงแรม ย่านสุขุมวิทซอย 24 หลังพบว่าจะมีการลักลอบเตรียมนำส่งต่างประเทศ
คดีที่3 ตำรวจจับกุม นายชิตวร และนายพงษ์ศรี พร้อมไอซ์ 300 กิโลกรัม และยาบ้า 1,000,000 เม็ด บริเวณ แยกเขาทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ขณะลำเลียงทยาเสพติดจากภาคเหนือมาส่งให้เครือข่ายในภาคกลาง
คดีที่4 ตำรวจจับกุมนายบุญครอง และนางสาวธิดา สามีภรรยา รวมทั้งนางสาวบุหลันและนาย มะณูน พร้อมของกลางยาบ้า 10,000,000 ขณะลำเลียงยาเสพจากจังหวัดสกลนคร มาซุกซ่อน ที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ก่อนนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีและขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป

คดีสุดท้าย ตำรวจสามารถตรวจยึดยาบ้า 1,000,000 เม็ด ได้ที่บริเวณอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หลังทราบว่าเครือข่าย กลุ่มมูเซอ จะลำเลียงยาเสพติด จึงได้นำกำลังเฝ้าติดตามพบรถยนต์ต้องสงสัยขับผ่านไปถึงที่เกิดเหตุจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่คนร้านไหวตัวทัน จึงได้ทิ้งรถหลบหนี เมื่อตรวจค้นพบว่ามียาบ้า อยู่ในห้องโดยสาร 500 มัด จึงนำส่ง พนักงานสอบสวนไปดำเนินคดี
สรุปแล้วในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาตำรวจ ปา สามารถจับกุมนาเสพติดรายสำคัญได้ถึง 18 คดี ได้ผู้ต้องหา 54 รายของกลางยาบ้า 20 ล้านเม็ด เฮโรอีน 220 กก. ไอซ์ 3,250 กก.โดยยาเสพติดของกล่งทีาตรวจยึดมาได้นั้นพนักงานสอบสวนจะส่งไปพิสูจน์ ยังหน่วยที่กำหนด และทำลายต่อไป
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผล.ตร./ผอ.ศอ ปส.ตร. กล่าวว่าจากนี้จะต้องมีการเรียกผู้ประกอบการเอกชนขนส่งเข้ามาพูดคุยหารือถึงแนวทางอีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการป้องกัน ในเรื่องของการลักลอบขนยาเสพติดผ่านระบบขนส่งมาแล้ว แต่ยอมรับว่ายังมีช่องโหว่จึงจะต้องหามาตรการและแนวทางป้องกันอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้มีการใช้ช่องทางนี้ลำเลียงยาเสพติดอีก
ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากบริษัทขนส่งเอกชนแค่ระดับหนึ่งเท่านั้นซึ่ง ก็เข้าใจว่าในการทำธุรกิจขนส่งต้องการขนส่งของให้รวดเร็ว ซึ่งบางบริษัทก็ไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร จึงต้องพูดคุยกันใหม่อีกทีหนึ่ง เพราะบางบริษัทขนส่งของโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงหรือความผิดปกติว่าเป็นการขนส่งของผิดกฎหมาย ในบางครั้งมีการส่งของไปยังบ้านร้าง หรือมีการใช้ชื่อผู้ที่เสียชีวิตเป็นผู้รับ ดังนั้นสำหรับมาตรการส่งเช่นบัตรประชาชนที่วามรรถยืนยันตัวตนได้ และกล้องสงจรปิดที่เห็นผู้ที่มารับส่งของโดยเฉพาะในสถานชุมชนที่ คนส่งกับคนรับรู้จักคุ้นเคยกัน ตำรวจก็จะต้องเข้าไปทำความเข้าใจร่วมกัน ส่วนจะไปบังคับให้บริษัทขนส่งติดตั้งเครื่องสแกนสินค้าตรงนี้ตำรวจไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ แต่เป็นเพียงการขอความร่วมมือหามาตรการป้องกัน
ส่วนการเอาผิดหรือคาดโทษกับบริษัทเอกชนที่หละหลวมในการขนส่งจะมีการดำเนินการอย่างไรนั้นต้องดูตามกฎหมาย หรือต่อไปอาจจะต้องมีการประกาศให้สังคมรับรู้ ว่าบริษัทไหนไม่ให้ความร่วมมือ