ปราจีนบุรี ขนลุก! เสียงหวีดร้องก่อนวันพระ เห็นดวงไฟปริศนา เชื่อเป็น “ปอบแลกหน้า”
1 min read
วันที่ 23 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
“รู้สึกอัศจรรย์ใจที่บ้านระเบาะเกตุ อ.นาดี ผิดพลาดอันใดก็ขอโทษขออภัยเด้อจ้า ลูกๆ หลานๆ มาขออาศัยอยู่นำซื่อๆ เดี๋ยวสิพาไปเฮ็ดบุญให้เด้อจ้า”
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ ซึ่งได้ให้ข้อมูลร่วมกับหลานชายถึงเหตุการณ์ชวนขนหัวลุก
น.ส.สมคิด ลูกอินทร์ เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 18 เม.ย. 68 ซึ่งตรงกับวันพระแรม 8 ค่ำ เวลาประมาณ 21.00 น. เพื่อนบ้านหลายคนแจ้งว่าได้ยินเสียงหวีดร้องโหยหวน ดังสนั่นทั่วหมู่บ้าน พร้อมกับเสียงหมาหอนยาวต่อเนื่องตลอดคืน พอรุ่งเช้า เพื่อนบ้านพากันมาถามว่าในบ้านมีเรื่องทะเลาะหรือเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ซึ่งเธอยืนยันว่าไม่มีเหตุอะไร
เพื่อนบ้านใกล้เคียง รวมถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต่างยืนยันว่าเสียงดังกล่าวน่าจะมาจากบ้านของเธอ และบางคนยังเห็นเงาดำเดินออกจากบริเวณบ้านในช่วงเวลานั้นด้วย
น.ส.สมคิด กล่าวต่อว่า พ่อของเธอในอดีตเคยเป็นหมอรักษา ใช้ตำราทางเสกเป่าและลูกประคำต่างๆ หลังจากพ่อเสียชีวิตก็ได้นำสิ่งของทั้งหมดออกจากบ้านแล้ว แต่ตนเองเคยพบเห็นดวงไฟลอยไปมาอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ช่วงเวลาประมาณตี 4 ขณะลุกขึ้นมาหุงข้าว ซึ่งดวงไฟนั้นลอยไปลอยมาแล้วก็หายไป
นอกจากนี้ ยังมีคนในหมู่บ้านบอกว่าเห็นเธอไปบ้านเพื่อนในช่วงเวลาดังกล่าว แต่เธอยืนยันว่าไม่ได้ไปไหนเลย ทำให้เรื่องยิ่งชวนขนหัวลุก และมีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับ “ปอบแลกหน้า” ซึ่งเป็นความเชื่อว่าปอบสามารถแปลงใบหน้าให้เป็นหน้าคนอื่นได้ โดยอาจมีลูกหลานที่มาขออาศัยอยู่ด้วย หรือเผลอทำอะไรโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์โดยไม่บอกกล่าว
ระหว่างที่เกิดเรื่อง ยังพบว่า มีเป็ดตาย 2 ตัว และควายของเพื่อนบ้านก็ตายไปอีก 1 ตัว โดยไม่ทราบสาเหตุ
นายกฤษฎาพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี หลานชายของ น.ส.สมคิด กล่าวว่า เหตุการณ์ลี้ลับครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับ “ปอบแลกหน้า” ซึ่งอาจแสดงให้เห็นเป็นใบหน้าของคนอื่น โดยตนเองก็เคยเห็นเงาดำเดินผ่านบริเวณบ้านย่าในช่วงเกิดเหตุ
ด้านนายถวิน ประจินต์ ชาวบ้านผู้ได้ยินเสียงหวีดร้อง กล่าวว่า เสียงดังกล่าวไม่น่าจะใช่เสียงของผู้หญิงธรรมดา และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่าได้ยินเสียงดังในช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มเช่นกัน ซึ่งในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในหมู่บ้านหลายครั้ง
สำหรับตำราเกี่ยวกับผีปอบ แบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์
- ปอบเชื้อ – มาจากสายเลือดพ่อแม่โดยตรง ไม่ดุร้าย อยู่แยกจากชาวบ้าน ถ้าไม่จนมุมจะไม่ทำร้ายใคร มักเลี้ยงอาหารไว้กินเอง หรือซื้อหา และจะไม่สบตาคนอื่น
- ปอบสาย – มาจากสายเลือดผสม เช่น พ่อเป็นปอบ แม่เป็นคน ลูกมีโอกาสเป็นปอบ 50:50 ถ้าสายเลือดปอบเข้มข้น ลูกก็มีโอกาสเป็นสูง
- ปอบเวทย์ – เกิดจากผู้ที่ผิดคำครู วิชากลับเข้าตัว เป็นอันตราย เพราะสามารถกินไม่เลือกหน้า
- ปอบป่า – รุนแรงที่สุด มักเกิดจากการเล่นของหรือใช้ว่านอาถรรพ์จนวิชากลับเข้าตัว ต้องหนีเข้าป่า ชาวพรานรู้กันดี หากพื้นที่ไหนเงียบผิดปกติ ไม่มีแม้แต่เสียงจั๊กจั่น มักเป็นอาณาเขตของปอบ
ทองสุข สิงห์พิมพ์ / รายงาน