ศุกร์. พ.ค. 30th, 2025

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ปทุมธานี ตร.รวบ”หรั่ง seeyou” หัวหน้าแก๊งลัก จยย.ส่งลาว พร้อมสมุนอีก 4 ครึ่งปีโจรกรรมกว่า 200 คัน

1 min read


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.หฤษฏ์ คำจุมพล ผกก.กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ซึ่งเป็นเครือข่ายนำรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน พบหัวหน้าแก๊ง”หรั่ง seeyou” พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชี เพียงแค่ 6 เดือนเงินสะพัดกว่า 10 ล้านบาท สารภาพขโมยรถจักรยานต์มากว่า 200 คัน ตร.เตรียมขยายผลเพิ่ม

โดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผยช.ภ.1 กล่าวว่า วันนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้มีผลการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จังหวัดปทุมธานี จำนวน 2 คดี คือจับกุมแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต

คดีนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 68 ผู้เสียหายได้นำรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดง หมายเลขทะเบียน 2กช-1324 เชียงใหม่ ไปจอดไว้ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหลักหก (ม.รังสิต) ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ต่อมาในวันที่ 19 พ.ค.68 กลับมาเอารถที่จอดไว้ ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไปจึงมาแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต จึงสั่งการให้ พ.ต.ท สิรภพ บัวหลวง รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ต.อิทธิพล พุทธรักษา สว.สส.ฯ พร้อมกำลังชุดสืบสวน ได้ออกทำการสืบสวนหาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ต่อมาทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในคดีนี้ มีจำนวน 3 คน ได้แก่ นายภูมิ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายฟรองซ์ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี และ น.ส.อีฟ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าจับกุมทั้งหมด ได้ที่บ้านพักย่านกรุงเทพมหานคร ก่อนนำตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ที่โจรกรรมมาไปขายต่อให้กับนายนราธร ฉายา”หรั่ง ซียู” อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายหรั่ง ตาผล ฉายา”หรั่ง ซียู” ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กำลังตรวจสอบพบว่านายหรั่ง กำลังจะยกรถจักรยานยนต์ 2 คันขึ้นรถตู้ทึบที่ตัดแปลงและทำที่ยึดรถจักรยานยนต์ไว้เป็นอย่างดี เพื่อเตรียมจะนำไปขายต่อที่พ่อค้าย่านมีนบุรี กรุงเทพมหานคร

ซึ่งจากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน คือรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน 7ขถ -6199 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1กม-1540 ร้อยเอ็ด ทั้งสองคันมีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.คูคต จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำการสอบสวนขยายผล

และจากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของ นายภูมิ (นามสมมติ) พบว่าเคยต้องโทษข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ในพื้นพื้นที่ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี จำนวน 8 คดี เมื่อปี พ.ศ.2566

จากการสอบปากคำ นายหรั่ง ซียู ให้การว่า ตนเริ่มรับซื้อรถจักรยานยนต์ มาตั้งแต่เดือน ธ.ค.67 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 6 เดือน ตนได้รับซื้อรถจักรยานยนต์กว่า 200 คัน ซึ่งเมื่อได้รถจักรยานยนต์มาแล้ว จะส่งให้เพื่อนใน FACEBOOK เพื่อทำการปลอมแปลงเอกสารของรถที่ถูกโจรกรรมมา โดยมีค่าดำเนินการเรื่องสำเนารถคันละ 300 บาทต่อคันและค่าสำเนาบัตรประชาชน 400 บาท เพื่อให้ตรงกับชื่อผู้ครอบครองรถที่รับซื้อมา

ซึ่งจากการตรวจสอบยอดเงินหมุนเวียนบัญชีธนาคารของ นายหรั่ง ตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายรถ
ที่ถูกโจรกรรมมา พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 11,227,970 บาท ล่าสุดจากการตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 – ปัจจุบัน นายหรั่ง ขายรถที่ในแก๊งโจรกรรม จำนวน 26 คัน โดยพบว่า เป็นรถที่แจ้งหายในพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 8 โรงพัก จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวก แก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”

ส่วนอีกคดี ตร.สภ.คลองหลวง ได้ทำการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง โดยสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง นำโดย พ.ต.ต.อธิเมศร์ ไชยศรัญวิชญ์ ผกก.ฯ พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.ฯ พ.ต.ท.ธนุส วิสุทธาภรณ์ สว.สส.ฯ ได้ทำการจับกุมตัวนายเล้ง (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโจรกรรมรถในพื้นที่ สภ.คลองหลวง แล้วทำการสืบสวนขยายผล โดยนายเล้ง ให้การว่า เมื่อโจรกรรมรถได้แล้ว จะนำไปขายต่อให้กับนายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 40 ปี จึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายเล็ก พบรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา 2 คัน คือรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น SPACY สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่น นูโว MX สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน ขฉร 130 บุรีรัมย์ และรถที่ใช้ก่อเหตุอีก 1 คันคือรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น SCOOPY i สีชมพูขาว หมายเลขทะเบียน 4กษ-373 กรุงเทพมหานคร พร้อมเอกสารใบคู่มือจดทะเบียน รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 เล่ม สำเนารายการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถจักรยานยนต์จำนวนมาก

จากการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ทราบว่าแก๊งนายเล้ง และนายเล็ก ได้เคยโจรกรรมทั้งรถยนต์
และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง มาแล้วจำนวน 4 คัน คือรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า รุ่นชีวิคFD สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กต-2674 อุทัยธานี รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่น GRAND FILANO สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กง 4818 ลำพูน รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 i สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 2กผ-8942 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นสเปซี่ ไอ สีแดง หมายเลขทะเบียน 2กฌ-2727 กรุงเทพมหานคร รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000,000 บาท โดยเมื่อได้รถที่โจรกรรมมาแล้ว จะส่งให้เครือข่ายใน FACEBOOK เพื่อทําการปลอมแปลงเอกสารของรถที่โจรกรรมมา โดยมีค่าดำเนินการคัดสำเนารถ 300 บาทต่อคัน และสำเนาบัตรประชาชน 400 บาท เพื่อให้ตรงกับรถที่โจรกรรมมา ซึ่งทำเป็นขบวนการคล้ายกับแก๊งของนายหรั่ง ซียู ก่อนที่จะแจ้งข้อหานายเล้งและนายเล็ก ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”

ดังนั้น จึงประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมหรือสงสัยอาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้แจ้งเบาะแสมาที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือสายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

พร้อมกันนี้ในส่วนของคดี สภ.ปากคลองรังสิต นั้นหากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนโทรไปหาเจ้าของรถที่ถูกขโมยลักไป ขอให้รับสายอย่ากลัวว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยเบอร์ที่จะโทรไปนั้น คือหมายเลข 0837093139 พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รอง ผกก.(สส.) สภ.ปากคลองรังสิต

ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม จังหวัดปทุมธานี

Loading…

ใส่ความเห็น

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.