CIB บุกจับ 3 สาวเทศบาล พิจิตร! ปลอมเอกสารผู้พิการ-ป่วยติดเตียง กดเงินกว่า 2 ล้าน สารภาพหมดเปลือก นำไปเล่นพนันออนไลน์
1 min read
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เปิดปฏิบัติการจับกุมเจ้าหน้าที่เทศบาล 3 รายในจังหวัดพิจิตร หลังพบว่าร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง และประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพื่อยื่นขอสินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดจากธนาคาร ก่อนนำบัตรไปกดเงินสดใช้จ่ายส่วนตัวเป็นมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท โดยทั้งหมดรับสารภาพว่า นำเงินไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ รองผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุมผู้ต้องหา 3 รายภายในสำนักงานเทศบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดพิจิตร ประกอบด้วย น.ส.นุชรีย์ฯ อายุ 42 ปี นักวิชาการเงินและบัญชี, น.ส.จุฬาพรฯ อายุ 55 ปี นักจัดการงานทั่วไป และ น.ส.อมรรัตน์ฯ อายุ 51 ปี ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ

จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบของกลางจำนวนมาก ได้แก่ ใบแจ้งหนี้ธนาคารในชื่อผู้อื่นจำนวน 507 ฉบับ, บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดของบุคคลอื่น 116 ใบ, สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน 35 ชุด รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์อีก 2 เครื่อง
จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสามซึ่งมีตำแหน่งงานอยู่ในเทศบาล ได้อาศัยความไว้วางใจจากประชาชนกลุ่มเปราะบาง เข้าหาเหยื่อโดยอ้างว่าจะช่วยดำเนินเรื่องขอรับสิทธิ์จากโครงการของภาครัฐ ก่อนขอเก็บเอกสารส่วนตัวและข้อมูลบัญชีธนาคาร จากนั้นจึงร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร โดยมีการตัดต่อภาพถ่ายให้ใส่เครื่องแบบข้าราชการ ปลอมหนังสือรับรองเงินเดือน และปลอมรายการเดินบัญชีให้ดูเหมือนมีเงินหมุนเวียน ก่อนยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารในชื่อของเหยื่อ


เมื่อธนาคารอนุมัติและส่งบัตรมาที่เทศบาล ผู้ต้องหาจะนำบัตรเหล่านั้นไปกดเงินออกมาใช้จ่ายส่วนตัว โดยไม่มีเหยื่อรายใดทราบเรื่อง
ความผิดปกติถูกเปิดเผยเมื่อธนาคาร ตรวจพบว่ามีลูกค้ากลุ่มหนึ่งราว 40 ราย ซึ่งล้วนระบุสถานที่ทำงานอยู่ที่เทศบาลเดียวกัน ยื่นขอสินเชื่อพร้อมกัน และมีข้อมูลหลายอย่างที่ไม่น่าเชื่อถือ เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านผู้มีรายได้น้อย ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ ซึ่งไม่เคยสมัครสินเชื่อด้วยตนเอง


ธนาคารจึงประสานงานกับกองบังคับการปราบปราม เพื่อสืบสวนและรวบรวมหลักฐาน จนนำไปสู่การออกหมายจับและเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ในที่สุด โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ยอมรับว่านำเงินที่ได้จากการหลอกลวงไปใช้เล่นพนันออนไลน์จนหมด