ชาวบ้านกว่า 1,000 คนฮือค้านสะพานอ่างศิลา-คีรี ซัดงบฯ 1,800 ล้านแก้ปัญหาไม่จริง – เสี่ยงกระทบชุมชน

ชลบุรี -ชาวบ้านกว่า 1,000 คน รวมตัวคัดค้านการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนจำนวน 1,800 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง ด้วยการสร้างถนนและสะพานข้ามแยกอ่างศิลา – คีรี ซึ่งกลับกลายเป็นโครงการที่สร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ที่ห้องประชุมลีลาวดี วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกอ่างศิลา – คีรี ได้ยื่นหนังสือผ่านนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษางบประมาณ และนายวรท ศิริรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี พรรคประชาชน เพื่อส่งต่อหนังสือไปยังรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรียกร้องให้มีการทบทวนหรือยุติโครงการดังกล่าว

โดยชาวบ้านระบุว่า เส้นทางนี้เคยมีการศึกษาไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 แต่ปัจจุบันสถานการณ์การจราจรคลี่คลายแล้ว เนื่องจากผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงนักท่องเที่ยว หันไปใช้เส้นทางเลี่ยง เช่น ถนนมอเตอร์เวย์ ถนนข้ามหลาม และสะพานเลียบชายทะเล ทำให้ไม่จำเป็นต้องสร้างสะพานเพิ่ม การดำเนินโครงการจะเป็นการใช้งบประมาณ 1,800 ล้านบาทอย่างสิ้นเปลือง โดยไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง ทั้งยังส่งผลกระทบในระยะยาวต่อประชาชนและสถานศึกษาในพื้นที่ เศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วก็จะทรุดลงยิ่งกว่าเดิม โดยมีชาวบ้านจากอำเภอพานทองเข้าร่วมคัดค้านโครงการแยกมาบโป่งด้วยเช่นกัน

นางสาวอารีรัตน์ พรหมภู่ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ซึ่งเป็นชาวอ่างศิลา เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องโครงการนี้ตอนที่มีการติดป้ายคัดค้านสะพานข้ามแยกอ่างศิลาและแยกคีรี เมื่อมารับนักเรียนที่ริมถนนสุขุมวิทด้วยตนเอง พบว่า การสำรวจที่อ้างว่ารถติดนั้นไม่เป็นความจริง เพราะรถติดเฉพาะช่วงสัญญาณไฟแดงเท่านั้น เมื่อไฟเขียว รถก็เคลื่อนตัวได้ตามปกติ จึงไม่เข้าใจเหตุผลในการใช้เงินถึง 1,800 ล้านบาทเพื่อสร้างสะพาน โดยตนและผู้ปกครองนักเรียน รวมถึงประชาชนที่มารวมตัวกัน ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง และอยากให้นำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ในด้านอื่นที่จำเป็นมากกว่า เช่น การซ่อมแซมถนนสุขุมวิทที่เป็นหลุมบ่อ ซึ่งเคยมีเยาวชนขี่รถตกหลุมจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ อยากฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาที่แท้จริงของชาวบ้าน เพราะเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่ ไม่ต้องการโครงการนี้

บริเวณดังกล่าวยังเป็นถนนที่มีความสวยงาม เป็นที่นิยมในการออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน หากมีการก่อสร้างสะพานจริง ก็ไม่รู้ว่าจะให้ปั่นจักรยานในเลนใด หากท่านรัฐมนตรีได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็อยากให้พิจารณายกเลิกโครงการนี้

ด้านนางตุ๊กตา ตัวแทนชาวบ้านตำบลมาบโป่ง อำเภอพานทอง กล่าวว่า ตนไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกมาบโป่ง เพราะจะส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วน รวมถึงวัดในพื้นที่ด้วย อีกทั้งจากประสบการณ์ในพื้นที่อื่นที่มีการสร้างสะพาน พบว่าร้านค้าริมทางมักเงียบเหงาลงตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง และเมื่อสะพานสร้างเสร็จ รถนักท่องเที่ยวก็ไม่จอดซื้อของ ทำให้ร้านค้าต้องทยอยปิดตัวลง และผู้ประกอบการต้องย้ายไปหาทำเลใหม่ในการประกอบอาชีพ