สืบนครบาลรวบหนุ่มภัยสังคม ลูกจ้างร้านปาโป่งงานแฟร์ ลวงสาว 15 อ้างจะพาไปส่งบ้าน ก่อนผลัดกันข่มขืนในรถกระบะ อ้างไม่ได้ก่อเหตุเด็กตกใจ
1 min read
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 10 มิ.ย.พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง, พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.บช.น. สั่งการ พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.สืบสวน 3 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ฉัตรมงคล มีจั่นเพชร รอง สว.กก.สืบสวน 3 บก.สส.บช.น., ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก, ด.ต.ภานุพงศ์ เวฬุวนารักษ์ , จ.ส.ต.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ, จ.ส.ต.นิติสิทธิ์ โชติคุต และ จ.ส.ต.พลภัทร ปรีชา ผบ.หมู่ กก.สืบสวน 3 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว นายอนุชา อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 553/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค.68 ข้อหา “ร่วมกันข่มข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ, ร่วมกันกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีฯ, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจารฯ, ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงฯ, ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีฯ ” โดยจับกุมได้ที่ภายในงานปากเกร็ดแฟร์ และงานกาชาด หน้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

สืบเนื่องจากคดีนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ ได้รับแจ้งจากมารดาของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย ว่า ขณะลูกสาวตนไปเล่นปาลูกโป่ง ในงานเทศกาลอาหารแห่งหนึ่ง ในท้องที่ สน.ท่าเรือ ได้มี นายกิตติศักดิ์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำร้าน ได้ล่อลวงลูกสาวตนโดยอ้างว่าจะไปส่งที่บ้าน แต่นายดิวกลับพาผู้เสียหายไปที่รถกระบะสีขาว แล้วให้ผู้เสียหายเข้าไปนั่งภายในรถบริเวณเบาะหลัง ก่อนถูกนายดิว ลงมือข่มขืนภายในรถกระบะดังกล่าว
จากนั้นได้มี นายอนุชา หรือนายโจ้ ผู้ต้องหา มาเคาะกระจก แต่นายดิวแจ้งกับนายโจ้ว่าให้ออกไปก่อน แล้วนายดิว ก็ได้เริ่มข่มขืนโดยวิธีการสอดใส่อวัยวะเพศ เมื่อลงมือเสร็จนายดิวก็ได้ออกมาจากรถ โดยนายโจ้ ได้เข้าไปในรถกระบะที่ผู้เสียหายอยู่ แล้วได้ข่มขืนต่อจากนายดิว เมื่อนายโจ้ออกมาจากรถและผู้เสียหายก็ออกมาจากรถดังกล่าว เพื่อเรียกรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้านพักได้แจ้งมารดาว่าถูก นายดิวและนายโจ้ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะผลัดเปลี่ยนกัน ผู้เสียหายจึงแจ้งความกับ ตำรวจ สน.ท่าเรือ ที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่ภายในงานดังกล่าว ก่อนไปตรวจสอบที่บริเวณร้านขายของภายในงานเทศกาลอาหาร ก็พบนายดิว จึงเชิญตัวมาที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบถาม

โดยนายดิว รับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้มาปาลูกโป่งที่ร้าน นายดิว จึงใช้วิธีการชักชวนผู้เสียหาย โดยอ้างว่าจะพาไปส่งที่บ้าน ก่อนลงมือข่มขืนภายใน หลังจากนั้นได้ลงมาจากรถ ก็ได้ให้นายโจ้ เข้าไปกระทำชำเราผู้เสียหายต่อในทันที ส่วนนายโจ้หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป กระทั่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ รวบรวมพยานหลักฐานของศาลอาญากรุงเทพใต้ออกมาจับ นายอนุชา หรือโจ้ ผู้ต้องหารายที่ 2
ต่อมาชุดสืบนครบาล สืบสวนจนทราบว่า นายอนุชา หรือโจ้ ผู้ต้องหา ได้เข้ามาทำงานเปิดบูธกิจกรรม ภายในงานปากเกร็ดแฟร์และงานกาชาด หน้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กระทั่งวันที่ 9 มิถุนายน เวลาประมาณ 22.20 น. ติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้

สอบสวน นายอนุชา หรือโจ้ ผู้ต้องหา ให้การปฎิเสธข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนมีอาชีพเป็นลูกจ้างในร้านปาลูกโป่งวันเกิดเหตุ ตนไม่ได้ร่วมข่มขืนในคดีดังกล่าว เพียงแต่เข้าไปนั่งภายในรถขณะที่นายดิวกำลังข่มขืนผู้เสียหายอยู่ เมื่อตนไปเคาะกระจกและเปิดประตูเข้าไปนั่งภายในรถใช้เวลาอยู่สักพัก นายดิว ผู้ต้องหา ได้สำเร็จความใคร่ จากนั้นนายดิวได้บอกกับตนว่าเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ดับเครื่องยนต์รถกระบะด้วย ตนยอมรับกับเจ้าที่ตำรวจว่า เด็กผู้เสียหาย มีอาการตกใจหรือกลัวตน เนื่องจากที่ตนได้ขึ้นมาภายในในรถ แต่ขอยืนยันว่าไม่มีการสอดใส่แต่อย่างใด จากนั้นตนหยิบเสื้อผ้าของผู้เสียหาย ภายในรถให้สวมใส่ ก่อนผู้เสียหายได้ลงจากรถไปพร้อมตน และเดินหายไป ส่วนตนได้ทำการเก็บร้านปาลูกโป่งที่ตนเป็นลูกจ้างอยู่ ต่อมาได้มีรุ่นน้องของตนได้มาบอกว่า นายดิว ถูกตำรวจ สน.ท่าเรือ จับไปแล้วในคดีข่มขืน หลังจากนั้นตนก็ได้ขับรถกระบะของตนกลับบ้านที่ จ.ปทุมธานี ทันที
ผู้ต้องหา ให้การอีกว่า ตนเรียนชั้นประถมเคยเข้ารอบรองชนะเลิศกีฬาแชร์บอล งานกีฬาสี โรงเรียนวัดดอน ตอนนั้นตนอยู่สีฟ้า และชั้นมัธยม ได้แชมป์กีฬาฟุตบอล 11 คน งานกีฬาสีตอนนั้นตอนอยู่สีม่วง โรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา ต่อมาตนได้เข้าไปรับโทษอยู่ในเรือนจำตนได้ แชมป์ฟุตซอลระดับแดนเรือนจำมากมายและยังได้เข้าร่วมฟุตซอลเกมส์แข่งขันกันที่เรือนจำลาดยาว อีกด้วย
จากการตรวจสอบประวัตินายอนุชา ผู้ต้องหา พบว่าเคยต้องโทษ ดังนี้ ปี 2551 สน.ดอนเมือง
ข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่าย (เมตแอมเฟตามีน), ปี 2554 สน.ดอนเมือง ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน) และ ข้อหาผู้ขับขี่ขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น, ปี 2555 สน.ดอนเมือง ข้อหา การเล่นอื่นใดนอกจากการเล่นในบัญชี ก. และบัญชี ข. ที่มิได้ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวง (ทายผลฟุตบอล) และข้อหา ลักลอบเล่นการพนันตามบัญชี ข. (ฟุตบอลโต๊ะ) โดยผิดกฏหมาย และปี 2558 สน.ดอนเมือง ข้อหา มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน)
เบื้องต้นจึงนำตัวแจ้งข้อกล่าวหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
