“ทนายรัชพล” เร่งตำรวจคลี่คลายคดีเหยื่อค้ากามวัย 15 หลังลูกสาวส่งจดหมายขอความช่วยเหลือ
1 min read
ทนายรัชพล ศิริสาคร พร้อมด้วยพ่อของเยาวชนหญิงวัย 15 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อการค้าประเวณี ยื่นหนังสือต่อ สน.ร่มเกล้า เพื่อขอให้ตำรวจเร่งรัดการสอบสวนคดี หลังลูกสาวส่งจดหมายจากบ้านพักเด็ก ระบุว่าชีวิตในนั้น “ทรมานยิ่งกว่าอยู่ในคุก” และต้องการกลับบ้านโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ทนายรัชพล ศิริสาคร พร้อมด้วย นายเอ (นามสมมติ) บิดาของเยาวชนหญิงวัย 15 ปี และนางบี (นามสมมติ) ย่า ได้เดินทางมายัง สน.ร่มเกล้า เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้กำกับการ สน.ร่มเกล้า ให้เร่งดำเนินการคดีค้าประเวณีที่ลูกสาวของนายเอตกเป็นเหยื่อ
ทนายรัชพลเปิดเผยว่า ลูกสาวของนายเอถูกเพื่อนหญิงวัย 14 ปี ล่อลวงไปโรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 และถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการล่อซื้อ ซึ่งภายหลังการสอบสวนพบว่าเธอเป็นเพียงเหยื่อ และขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านเกร็ดตระการ) จังหวัดนนทบุรี เยาวชนหญิงได้เขียนจดหมายถึงครอบครัว แสดงความต้องการที่จะกลับมาอยู่บ้านและขอให้ครอบครัวเร่งรัดคดี
ทนายรัชพลเน้นย้ำว่ากรณีนี้เยาวชนหญิงเป็น เหยื่อการค้ามนุษย์ และควรได้รับการดูแลและความอบอุ่นจากครอบครัวโดยเร็ว การเร่งรัดคดีจะช่วยให้เธอได้กลับบ้านเร็วขึ้น

ด้านนายเอ ผู้เป็นพ่อ เล่าว่าตนเองเป็นไรเดอร์ วันเกิดเหตุลูกสาวขออนุญาตไปงานวันเกิดเพื่อนและไม่ได้กลับบ้าน จึงคิดว่าลูกสาวอาจจะค้างคืนที่บ้านเพื่อน จนกระทั่งวันที่ 6 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ พม. ได้ติดต่อมาแจ้งข่าวเรื่องที่ลูกสาวถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม และถูกส่งตัวไปยังบ้านเกร็ดตระการ
นายเอได้เข้าเยี่ยมลูกสาวเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 โดยลูกสาวได้ขอโทษและขอร้องให้พ่อช่วยเร่งรัดคดี เพราะทนอยู่ในบ้านพักไม่ไหวแล้ว และอยากกลับบ้านทันวันเกิดในเดือนสิงหาคมนี้
นางบี ผู้เป็นย่า กล่าวเสริมว่า หลานสาวคบหากับกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้มานานแล้ว ตนเคยเตือนหลานสาวเรื่องเพื่อนหญิงวัย 14 ปีคนดังกล่าว เพราะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย และทราบว่าขณะนี้เพื่อนคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานพินิจ เนื่องจากพบยาเสพติดและปัสสาวะสีม่วง นางบีหวังว่าการยื่นหนังสือในวันนี้จะช่วยให้หลานสาวได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพราะหลานสาวบอกว่าการอยู่ในบ้านพักนั้น “ทรมานยิ่งกว่าอยู่ในคุก” และไม่สามารถเลือกกินอาหารได้ตามต้องการ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับหนังสือร้องเรียนไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป