เสาร์. มิ.ย. 21st, 2025

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

รวบทนายปลอม! หลอกว่าความทิพย์ สูญเงินหลายล้านบาท มีคดีติดตัวกว่า 30 คดี หมายจับ 7 หมาย

1 min read

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้เข้าจับกุม นายกิตติฯ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาฉ้อโกงคดีสำคัญ หลังสวมรอยเป็นทนายความหลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายหลายล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่า นายกิตติฯ มีคดีฉ้อโกงติดตัวมากกว่า 30 คดี และมีหมายจับค้างเก่าถึง 7 หมาย

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. โดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. และคณะทำงาน ประกอบด้วย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น, พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. และทีมรอง ผกก.3 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. และ ร.ต.อ.รังสิมันตุ์ ตันจริง รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป.

โดยนายกิตติฯ ถูกจับกุมได้บริเวณหน้าบ้านพักในซอยพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ 35-12 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 689/2567 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ในข้อหา “ฉ้อโกง”

พฤติการณ์ของคนร้าย เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2567 เมื่อมีผู้เสียหายจำนวนมากทยอยเข้าแจ้งความ หลังถูกนายกิตติฯ แอบอ้างตัวเป็นทนายความ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ต้องหาอวดอ้างว่าตนได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความอย่างถูกต้อง สามารถว่าความในชั้นศาลได้ และรับทำคดีทั้งแพ่งและอาญา

แต่ความจริงกลับปรากฏว่า นายกิตติฯ ไม่ใช่ทนายความ ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และไม่มีความรู้ทางกฎหมายแต่อย่างใด ผู้ต้องหาใช้กลอุบายสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะหลอกให้เหยื่อหลายรายจ่ายเงินค่าดำเนินคดี “ว่าความทิพย์” รายละ 200,000 – 500,000 บาท จากนั้นก็หายตัวไป ไม่ดำเนินการใด ๆ ให้ตามที่ตกลงไว้ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ซ้ำ ๆ โดยอาศัยช่องว่างของระบบยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง ผู้เสียหายรวมตัวร้องขอความเป็นธรรมต่อกองบังคับการปราบปราม และเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

ชุดสืบสวนได้ติดตามตัวจนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในแถบกรุงเทพมหานคร จึงได้ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์จนพบตัวและเข้าจับกุม

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่านายกิตติฯ มีหมายจับคดีฉ้อโกงติดตัวอีก 7 หมาย ดังนี้

  • หมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 690/2567 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
  • หมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 691/2567 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
  • หมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 692/2567 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
  • หมายจับศาลจังหวัดกันทรลักษณ์ ที่ 306/2567 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ในข้อหาฉ้อโกง
  • หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 384/2567 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ในข้อหาฉ้อโกง
  • หมายจับศาลแขวงบางบอน ที่ 65/2568 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ในข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
  • หมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ 113/2568 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับเอกสาร, ฉ้อโกง

ภายหลังการจับกุม มีชาวบ้านในจังหวัดศรีสะเกษที่เคยถูกหลอกลวงทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มเติมแล้วกว่า 30 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ โดยนายกิตติฯ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และเข้าใจในสิทธิของตนเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ถูกจับกุมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดศรีสะเกษเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading…

ใส่ความเห็น

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.