ปทุมธานี สองผู้ต้องหายิงตำรวจ มอบตัวแล้วหลังกลัวตาย อ้างคิดว่าอริเก่า
1 min read
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกันกระทั่งล่าสุดญาติของผู้ต้องหาทั้งสองได้ติดต่อผ่านทาง พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 เพื่อขอติดต่อขอมอบตัวหลังจากทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว เพราะเชื่อว่าหนีไปก็ไม่รอดฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงติดต่อขอมอบตัวที่บริเวณแถวสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมี พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รองผกก.สภ.ปากคลองรังสิต พร้อมกำลังเดินทางไปรับตัวโดยนำหมายจับไปด้วย เพื่อทำการจับกุมตัวกลับมาดำเนินคดีทางกฎหมาย
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต. ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้เดินทางมาที่ห้องสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง โดยเมื่อรถยนต์ของชุดปฏิบัติการพิเศษภ.จว.ปทุมธานี เดินทางมาถึงได้นำตัวนายนภนต์ธรณ์ ฟักเฟื่องบุญ “ตูน ปชน.3” และ นายนายสรศักดิ์ จันทร์ใบเล็ก “เดีย ลาย” เข้าห้องสืบสวนเพื่อสอบปากคำทันที
โดยระหว่างที่มีการเข้าจับกุมตามที่ญาตินัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหาทั้งสองยืนรออยู่ตามที่จุดนัดหมาย พร้อมกันนี้ พ.ต.ท สิรภพบัวหลวง รอง ผกก.สืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ก็ได้อ่านหมายจับให้ผู้ต้องหาทั้งสองได้ทราบ จากนั้นจึงควบคุมตัวทั้งคู่มาโรงพักทันที
นายนภนต์ธรณ์ ฟักเฟื่องบุญ หรือ”ตูน ปชน.3″ ได้อ้างว่าตนเองไม่คิดว่าจะยิงตำรวจเพราะคิดว่าเป็นอริเก่า จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ก่อนเพื่อหลบหนีไป เพราคิดว่าบุคคลนั้นเป็นอริเก่า

หลังจากนั้นทางเจ้าที่ตำรวจ ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองเข้าไปในห้องสืบสวน โดยมี ผบช.ภ.1 และ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้รอทำการสอบปากคำทันที

ทางด้าน พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.ปากคลองรังสิต ได้สืบสวนหาข่าวจนได้ข้อมูลติดต่อซื้อขายกับพรรคพวกของนายตูน ก่อนที่นายตูน และเดีย ลาย จะทำหน้าที่มาส่งมอบบุหรี่ไฟฟ้า โดยนายตูนอ้างว่าเป็นคนขับรถ แต่ระหว่างส่งของ ตำรวจได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการฉุดกระชากกันตั้งแต่ในรถ ซึ่งนายเดีย ลาย มีอาวุธปืนเตรียมไว้ที่เก๊ะหน้ารถอยู่แล้วในลักษณะพร้อมยิง นายเดีย ลาย จึงได้ยิงเปิดใส่เจ้าหน้าที่ก่อน ก่อนที่จะเกิดการต่อสู้กัน โดยนายเดีย ลาย ถูกกระสุนยิงสวนเข้าที่หลัง ซึ่งจากการตรวจรถยนต์ของกลาง ก็พบรอยกระสุน 20 กว่านัด ส่วนใหญ่ยิงออกมาจากด้านในรถ


หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาพยายามขับรถหลบหนีขึ้นทางด่วน แต่เพราะยางรถถูกเจ้าหน้าที่ยิงแบน ทำให้รถไปต่อไม่ได้ ผู้ต้องหาจึงขับรถลงจากทางด่วนและนำไปจอดทิ้งไว้ที่อู่ซ่อมรถย่านสรงประภา ดอนเมือง ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป โดยได้ตระเวนไปตามบ้านญาติพี่น้อง พรรคพวกและทำแผลที่ถูกยิงเอง จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าคนที่ถูกตนเองยิงนั้นเป็นตำรวจ จึงคิดว่าไปไม่รอดแน่ เพราะถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก จึงได้ติดต่อคนใกล้ชิดให้ช่วยประสานพามอบตัว
ส่วนที่ตำรวจแสดงตัวแล้ว แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นตำรวจนั้น เจ้าตัวอ้างว่าส่วนหนึ่งมาจากความหวาดระแวงเรื่องราวในอดีตหลายเรื่อง ที่มีศัตรูรอบตัว กลัวคู่อริอาจจะหลอกล่อให้มาส่งบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อมาทำร้าย แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การและอยู่ระหว่างรอสอบปากคำกับตำรวจที่ถูกยิง ว่าสรุปแล้วนายเดีย ลาย เป็นคนยิง และนายตูน เป็นคนขับตามคำกล่าวอ้างจริงหรือไม่ รวมถึงตำรวจจะขยายผลไปยังเรื่องของผิดกฎหมายอื่น ๆ ด้วย เพราะผู้ต้องหาก็เคยมีประวัติก่อคดีอาชญากรรมใหญ่ ๆ หลายคดี ทั้งคดียาเสพติดและคดีอาวุธปืน

ส่วนอาวุธปืน เบื้องต้นก็ไม่ใช่อาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีการยิงในระยะที่หวังผลได้ เข้าข่ายความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานและพยายามฆ่าผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนและคดีบุหรี่ไฟฟ้า จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง ส่วนเจ้าหน้าที่ 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ปลอดภัยทั้งคู่ โดยยังพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน