ตำรวจสอบสวนกลางรวบหนุ่มขาย 5 บัญชีม้า แก๊งหลอกทำงานออนไลน์ เหยื่อสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท
1 min read
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำกำลังเข้าจับกุม นายวีรภาพ หรือเจ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงออนไลน์รวม 2 หมายจับ หลังพบพฤติการณ์ขายบัญชีธนาคาร 5 บัญชีให้แก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงผู้เสียหาย
หลอกให้ทำงานออนไลน์ ซึ่งทำให้ผู้เสียหายรายหนึ่งต้องสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท การจับกุมครั้งนี้เป็นไปภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการและผู้บังคับการกองปราบปราม โดยมี พ.ต.ท.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. และชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.5 บก.ป. เป็นผู้ควบคุมการจับกุม นายวีรภาพถูกจับกุมได้ที่ริมถนนในหมู่บ้าน หมู่ 7 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง โดยแก๊งคนร้ายได้สร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมแอบอ้างเป็น “บริษัทงานฝีมือ จำกัด” โฆษณารับสมัครงานเสริมออนไลน์ ให้ทำงานฝีมือที่บ้าน ผู้เสียหายสนใจจึงติดต่อสอบถาม และได้รับลิงก์ไลน์ให้เพิ่มเพื่อนเพื่อพูดคุยรายละเอียด
เมื่อผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนไลน์ คนร้ายได้นำเสนอการทำงานแพ็กสินค้าที่บ้าน พร้อมส่งเอกสารและภาพสาธิตการแพ็กสินค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม คนร้ายอ้างว่าผู้เสียหายต้องผ่านการประเมินก่อนเริ่มงาน โดยชักชวนให้ร่วมกิจกรรมลงทุนซื้อสินค้ากับเพจเพื่อรับค่าคอมมิชชัน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของนายวีรภาพตามที่คนร้ายแจ้ง หลังจากโอนเงินแล้ว ผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินคืนได้ และถูกแจ้งให้โอนเงินเพิ่มเพื่อแก้ไขระบบ ทำให้รู้ว่าถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน ความเสียหายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,029,221.37 บาท
พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับนายวีรภาพ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้เสียหาย

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวีรภาพให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนเองตกงานและต้องการเงิน จึงเข้าไปในกลุ่มซื้อขายบัญชีธนาคารบนเฟซบุ๊ก และได้ติดต่อแอดมินที่รับซื้อบัญชีละ 1,000 บาท นายวีรภาพจึงไปเปิดบัญชีธนาคาร 5 แห่ง และขายให้กับแอดมินคนดังกล่าว ได้เงินมา 5,000 บาท ก่อนที่บัญชีของเขาจะถูกนำไปใช้ในการก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายจนถูกจับกุมในที่สุด
ตำรวจได้นำตัวนายวีรภาพส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป