ญาติร้อง! “แคดดี้สาวดับ” คู่กรณีเมาชน-ยังวิ่งเต้น หวังให้เป็นแค่คดีประมาทร่วม

วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เกิดเหตุสลดในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อหญิงสาวอาชีพแคดดี้จากสนามกอล์ฟชื่อดัง พร้อมสามี ขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักหลังเลิกงาน ถูก รถกระบะขับพุ่งชนจากด้านหลังด้วยความรุนแรง ส่งผลให้ฝ่ายหญิงเสียชีวิตคาที่ ส่วนสามีได้รับบาดเจ็บสาหัส

ภายหลังตรวจวัดพบว่า ผู้ขับรถกระบะมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ยังมิได้แจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ แก่ผู้ขับรถกระบะแม้เวลาผ่านไปแล้วหลายวัน สร้างความคลางแคลงใจและหวาดกลัวต่อความไม่เป็นธรรมของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น มีข้อมูลว่า คู่กรณีได้พยายามวิ่งเต้นหาคนกลางเพื่อเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับฝ่ายผู้เสียหาย โดยมีเจตนาชัดเจนในการโน้มน้าวให้ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียง “คดีประมาทร่วม” แทนที่จะเป็นความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาทในขณะมึนเมา เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส” ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญา

ท่ามกลางความกดดันและการข่มขู่จากฝ่ายคู่กรณี ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่า “หากไม่ใหญ่พอ อย่าคิดมาสู้คดีกับเขา” ครอบครัวผู้เสียหายจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจาก ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของสมาคมส่งเสริมคุณธรรมตำรวจช่วยเหลือประชาชน โดยมี นายสุวรรณ บัวโรย ประธานศูนย์ฯ และผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส.จรัส คุ้มไข่น้ำ รับเรื่องและลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือทันที

นายสุวรรณ บัวโรย ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานสำคัญทั้งหมด ได้แก่ ภาพจากกล้องวงจรปิด ใบรับรองแพทย์ พยานบุคคล และรายงานสภาพศพผู้เสียชีวิต พร้อมจัดทำบันทึกสรุปข้อเท็จจริงเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยไม่มีการลดทอนหรือเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม

“คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องอุบัติเหตุ แต่คือการพรากชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่กลับบ้านหลังเลิกงาน และสามีของเธอก็ยังต้องรักษาตัวจากบาดแผลรุนแรง แต่ฝ่ายคู่กรณีกลับพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงให้กลายเป็นแค่คดีประมาทร่วม ซึ่งไม่อาจยอมรับได้ในหลักนิติธรรม” – นายสุวรรณ กล่าว

ขณะนี้คดีกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวน โดยทีมงานของนายสุวรรณยังคงติดตามใกล้ชิด พร้อมย้ำว่าจะไม่ปล่อยให้ “ผู้เสียหายต้องยอมแพ้เพียงเพราะไม่มีอำนาจหรือสายสัมพันธ์”