บุรีรัมย์ สำนึกช้าไปหนุ่มขอตำรวจกราบเท้ายายลาเข้าคุกหลังถูกจับยาบ้า
1 min read
อำเภอเมือง-หนุ่มวัย 24 ปีถูกตำรวจจับกุมพร้อมยาบ้า เจ้าตัวสำนึกผิดขอตำรวจจะกราบเท้ายายก่อนจะถูกพาไปดำเนินคดี ผู้การเผยถึงแม้ยาบ้าที่จับได้มีเพียง 15,000 เม็ดแต่ได้ผู้ต้องหาหลายกลุ่มถึง 18 คดี เตรียมเร่งปราบยาเสพติดทุกชนิดให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
วันที่ 21 ก.ค 68 ที่หอประชุมชัยจินดา สถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ภจว.)บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ฝ่ายปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการขับเคลื่อน “ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด” ตามนโยบายรัฐบาล
ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์สามารถจับกุมผู้ต้องหา 13 ราย รวม 18คดี ยึดของกลางยาบ้ากว่า 15,853 เม็ด อาวุธปืน 2 กระบอก กระสุนปืน 17 นัด และรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีก 1 คัน มูลค่า 600,000 บาท
พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา กล่าวว่า ตอนนี้ได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน ระดมกวาดล้างยาเสพติดอย่างหนัก นอกจากจะเป็นนโยบายของรัฐบาลแล้ว ยังเป็นการปรามเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด รวมถึงกลุ่มที่พลาดไปแล้วบางคนย้อนกลับมากระทำผิดอีก
เช่นเดียวกับกรณี 1 ใน 13 ผู้ต้องหาที่ตำรวจจับกุมได้ คือนายดัง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ถูกจับพร้อมของกลางยาบ้า 798 เม็ด ทั้งที่เคยถูกจับกุมมาแล้ว ได้แสดงอาการสำนึกผิดด้วยการ ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ให้ได้ “กราบเท้ายาย” ผู้เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก เพื่อขอโทษในสิ่งที่ตนได้ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เล่าทั้งน้ำตาต่อหน้ายายว่า”ผมเคยติดคุกมาแล้ว เคยสัญญากับยายไว้แล้ว แต่เมื่อพ้นโทษมาได้เพียง 10 เดือน ก็เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก แต่สุดท้ายก็พลาด ยายคือคนที่หวังดีกับผมที่สุด วันนี้รู้แล้วว่าเสียใจไม่พอ ยายผิดหวังในตัวผมมาก ขอกราบขอโทษยายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเข้าคุกอีกครั้ง”คลิปที่เห็นเป็นการสะท้อนถึงความไม่สำนึกผิด



ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวด้วยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลได้ประกาศต่อรัฐสภา โดยมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำไปสู่การปฏิบัติอย่างเข้มข้นทั่วประเทศ เพื่อปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดในทุกมิติ โดยเฉพาะการตัดวงจรและยึดทรัพย์จากผู้กระทำผิด

ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเบาะแส ผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599, สายด่วน 191 หรือแอปพลิเคชัน Police I lert U ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างสังคมปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน





ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวภูมิภาค จังหวัดบุรีรัมย์