ศจย. จัดการประชุมวิชาการบุหรี่และสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 23 “กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า คนรุ่นใหม่รู้เท่าทันกลยุทธ์”
1 min read
วันที่ 5 ส.ค. 2568 ที่ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ ผศ.ดร.นพ.วิชซ์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ 23 ภาคีเครือข่าย และ 9 เครือข่ายเยาวชน สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดการประชุมวิชาการบุหรี่และสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 23 "กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า : คนรุ่นใหม่รู้เท่าทันกลยุทธ์" โดยมี คุณจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้เกียรติเปิดการประชุม
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมวิชาการเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าและสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 23 เป็นการพูดถึงกลไกในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหลัก ได้มีประเด็นพูดไปถึงมาตรการควบคุมยาสูบ เช่น เรื่องภาษีบุหรี่ การช่วยชาวไร่ยาสูบที่ต้องการเลิกปลูกแล้ว จากการสำรวจประมาณ 50% ชาวไร่ยาสูบมีความต้องการจะเปลี่ยนอาชีพ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับเยาวชน การสร้างรับรู้เกี่ยวกับการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และมาตรา 5.3 ที่เป็นอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก รณรงค์และกำหนดให้มีการป้องกันประเทศต่าง ๆ ไม่ให้คนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบุหรี่เข้ามาแทรกแซงนโยบาย ทั้งในสภาฯ หรือระดับกระทรวงฯ โดยเฉพาะการตั้งเข้าไปเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นกรรมการ กำหนดนโยบายควบคุมยาสูบ
ซึ่งที่ผ่านมาผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับธุรกิจบุหรี่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาฯ และคณะกรรมการในสภา 3 ชุด ฝ่ายสุขภาพของสังคมได้มีการร้องเรียนไปในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกตามอนุสัญญาควบคุมยาสูบ ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งทางสภาฯจะต้องไปออกข้อกำหนดและกฎหมายภายในว่าให้เป็นไปตามที่กำหนด ถือเป็นมาตรการการป้องกันการแทรกแซงของธุรกิจบุหรี่ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การควบคุมยาสูบไม่คืบหน้า สุดท้ายปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้าในขณะนี้มันพัฒนาไปถึงฝ่ายอาชญากรรมและผู้ค้ายาเสพติด ร่วมมือกันผสมยาเสพติดเข้าไปอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้า และระบาดอยู่ในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะบ้านเราที่มีการควบคุมของผิดกฎหมาย จึงมีปัญหาอยู่มาก นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่มีการห้ามนำเข้ามาจำหน่าย และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการควบคุม
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า วันนี้ สสส. มาสานพลังกับทุกภาคส่วนที่เป็นภาคีเครือข่ายรณรงค์เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งวันนี้มีทุกภาคส่วนมาประชุมวิชาการร่วมกัน ส่วนสำคัญคือว่าวันนี้ทำอย่างไรให้เยาวชนรู้เท่าทันและกระชากหน้ากากของบริษัทหรือธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหลายทั้งปวง ส่วนสำคัญคือข้อมูลของกองทุนส่งเสริมสุขภาพเพื่อการศึกษา และ สพฐ. ได้สำรวจเด็กประมาณ 124,000 คน พบว่าเด็กกลุ่มนี้เคยลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 24% และมีเพื่อนสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 20% รวมถึงเห็นผู้คนในสังคมสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 20% ดังนั้น แปลว่าเราจำเป็นที่จะต้องหาวิธีในการระดมกำลังทุกภาคส่วนในสังคมไทยมาร่วมมือกันในการสื่อสารและรวมพลัง
วันนี้มีผู้ร่วมเข้าประชุมวิชาการ ทั้งนักเรียนนักศึกษา และเครือข่ายเจน Z ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า มีนักวิชาการ และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งงานวิจัย และภาควิชาต่าง ๆ เข้ามานั่งวิเคราะห์ยุทธศาสตร์กันว่าจะทำอย่างไรต่อไปที่เป็นส่วนสำคัญของภาครัฐ ทั้งรัฐบาล และพรบ.ที่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นพิษภัยของเยาวชน แต่กระบวนการที่จะสารพลัง และจัดการให้หมดสิ้นไปเลย เป็นส่วนสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน และสื่อมวลชนเป็นกำลังสำคัญในการสื่อสารให้เห็นพิษภัย ของบุหรี่ไฟฟ้า ที่ทำให้อายุค่าเฉลี่ยของคนลดลง 10 ปี และอายุค่าเฉลี่ยของการมีสุขภาพดีลดลง 8 ปี อยู่กับปริมาณการสูบ นั่นหมายความว่า 18 ปีที่สูญใป ไม่ว่าจะเป็นจากความพิการที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของมะเร็งต้องตัดอวัยวะออก โรคปอดปิดกั้นเรื้อรังที่หายใจไม่ออก ความพิการและต้องติดเตียง พวกนี้เป็นสิ่งที่หลบซ่อนอยู่เหตุผลมาจากบุหรี่มวน ในการศึกษาที่ผ่านมา
บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีนิโคตินเหมือนกัน และจะมีคนสูบบุหรี่มากขึ้นที่สุดของเด็กและเยาวชน อายุน้อยขึ้น สูบมากขึ้น บ่อยขึ้น ดังนั้นในอนาคตคนไทยที่ผู้สูงอายุเป็นสังคมสูงวัย เด็กเกิดน้อย เด็กก็จะเรียนมีปัญหาในเรื่องของการพัฒนาการสมอง และอาจจะพิการและติดเตียงก่อนวัยด้วย เป็นปัญหาในระยะยาวในสังคมไทย
นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส ผู้อำนวยการสำนักงานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ในนามของคนที่ทำงานหน้างาน เราลงไปตรวจสอบในชุมชนและเด็ก รวมถึงมหาวิทยาลัย เราพบว่าปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้าตอนนี้ก็คือปัญหาด้านการตลาด ซึ่งพยายามผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อที่จะมาชดเชยที่เสียตลาดบุหรี่มวนไปและพุ่งเป้าที่เยาวชนและเด็ก เป็นอันตรายกับเยาวชนของเราอย่างมาก รัฐบาลได้พยายามที่จะช่วยเหลือในการที่จะบังคับใช้กฎหมายแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ 100% เพราะฉะนั้นความจริงแล้วประเทศไทยเรามีกฎหมายที่ดีมาก ๆ เพื่อควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ แต่ในการบังคับใช้ยังอ่อน
เราเองที่ในฐานะผู้ปฏิบัติอยู่หน้างานก็เป็นห่วงและอยากจะฝากไว้ว่าเราลดได้ในแค่ของส่วนผสม เราช่วยให้การศึกษาและความรู้ เราช่วยในการรักษา แต่ในการที่จะลดอุปทานลง เราไม่มีอำนาจในการลดปริมาณลงได้เลย เพราะฉะนั้นฝากทางรัฐบาล ผู้มีอำนาจให้ออกกฏหมายและช่วยกันดูแลไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาขายโดยเสรีในประเทศประเทศไทย เพราะถ้าเข้ามาโดยเสรีในประเทศ ต่อให้เราไปลดปริมาณยังไงก็ยังมีการขายอยู่ พบเห็นตามตลาด ในร้านค้า หรือใกล้เคียงมหาวิทยาลัย เข้าถึงง่ายมาก
เพื่อการให้ประโยชน์และได้ประโยชน์สูงสุดเราต้องลดความต้องการซื้อสินค้าและบริการ (Demand) และลดความต้องการขายสินค้าและบริการ (Supply) ฝากไปถึงรัฐบาลให้ช่วยเราและทำให้การขายบุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่เป็นการขายแบบเสรี บุหรี่มวนยังควบคุมไม่ได้ ดังนั้นหากมีบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งทำให้ควบคุมยาก และงบประมาณในการควบคุมใครจะเป็นคนทำ และทำได้ทั่วถึง การทำงานของธุรกิจบุหรี่นำหน้าเราเสมอฝากทุกคนต้องช่วยกัน ถึงแม้จะเป็นแค่เพียงการป้องกันทีหลังแต่ถ้าเรามีการป้องกันก็จะยับยั้งลงบ้าง
นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ต้องขอบคุณเครือข่ายและอาจารย์แพทย์ทุกท่านที่ร่วมกันพูดถึงเรื่องนี้ เพราะบุหรี่เป็นปัญหาใหญ่ การบริโภคยาสูบและการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นการมอมเมาเยาวชน คสช.เป็นพื้นที่กลางที่จะให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ นักวิชาการ เอกชน สังคม ประชาชน และนักเรียนนักศึกษา มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งมติของคสช.สามารถเข้าถึงครม.ได้โดยตรง เมื่อ 20 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา ขอให้ทุกส่วนทำงานร่วมกันต่อเพราะหากยอมแล้วก็เราจะสู้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ไหว ขอให้ร่วมกันทำงานตรงนี้ต่อและส่งเสียงดังๆไปถึงเด็กเและเยาวชน รวมถึงประชาชน ว่าเราต้องปกป้องเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากบุหรี่ไฟฟ้า
ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า เราต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยกันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า และยังอยากขับเคลื่อนประเด็นการแทรกแซงอุตสาหกรรมยาสูบ ต้องให้ผู้มีอำนาจกำหนดห้ามไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า มาแทรงแซงอยู่ในรัฐสภาหรือรัฐบาล วันนี้ประเด็นหลักของปีนี้คือเราจะกระชากหน้ากากบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อปกป้องเยาวชนเราเป็นหลัก





Loading…