ตำรวจบุกรวบ “ไฮโซลูกนัท” ค้นบ้านเจออาวุธปืนอื้อ-คดียาเสพติด-ทำร้ายเด็กเอ็นฯ
1 min read
จากกรณีการจับกุมนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท วัย 33 ปี ที่บ้านพักหรูย่านพัฒนาการ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานข่าวความคืบหน้าถึงการดำเนินคดีเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ดังกล่าว
จุดเริ่มต้นคดี: เด็กเอ็นฯ แจ้งความ ถูกบังคับเสพยาและล่วงละเมิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ไฮโซลูกนัทได้เรียกเด็กเอนเตอร์เทน 3 คนมาที่บ้าน ก่อนจะบังคับให้เสพยาเสพติดและร่วมประเวณี โดยหนึ่งในผู้เสียหายสามารถหลบหนีออกมาได้และเข้าแจ้งความ พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายอาวุธปืนภายในบ้านมามอบให้เจ้าหน้าที่


เมื่อสืบสวนแล้วพบว่าคดีมีมูล เจ้าหน้าที่จึงขออำนาจศาลอาญาพระโขนงออกหมายค้น แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีอาวุธปืน จึงได้ประสานกำลังตำรวจชุดอรินทราช 26 ร่วมปฏิบัติการบุกเข้าจับกุม
ขณะที่ตำรวจเข้าตรวจค้น พบว่าไฮโซลูกนัทอยู่ในสภาพมึนเมาและพกอาวุธปืนขึ้นลำเตรียมพร้อมต่อสู้ แต่เมื่อเห็นตำรวจอรินทราชพร้อมอาวุธครบมือ จึงยอมวางอาวุธและให้จับกุมแต่โดยดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นและพบของกลางเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงอีกหนึ่งคนอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นเด็กเอนเตอร์เทนที่เพิ่งถูกเรียกมา แต่ยังไม่ถูกล่วงละเมิด
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะไฮโซลูกนัท พบว่ามีผลเป็นสีม่วง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ว่าเจ้าตัวมักจะเสพโคเคนและยาไอซ์เป็นประจำ และยังมีพฤติกรรมบังคับให้เด็กเอนเตอร์เทนที่มาหาเสพยาเสพติดเช่นกัน
ในส่วนของอาวุธปืนที่พบจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าปืนทั้งหมดเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม และมีทะเบียนถูกต้องหรือไม่
นอกจากนี้ ในประเด็นเรื่องการทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่กำลังประสานให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.คลองตัน ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้เสียหายหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อพฤติกรรมบังคับเสพยาและทำร้ายร่างกายของไฮโซลูกนัท
ต่อมาในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ได้ควบคุมตัวนายธนัตถ์มาพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดไว้ในครอบครอง ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงข้อกล่าวหา แต่ไฮโซลูกนัทตอบเพียงว่า “ผมมาเรื่องอาวุธปืน”

จากนั้นเวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตำรวจออกทางประตูหลัง เพื่อหลบเลี่ยงสื่อมวลชนที่รอทำข่าว และนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาพระโขนงต่อไป
