เพชรบุรี ยายวัย 76 ปีสุดงง ถูก อบต.สั่งรื้อรั้วเมทัลชีท อ้างรุกล้ำคูน้ำสาธารณะ วอนหน่วยงานช่วยเหลือ
1 min read
วันที่ 15 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางปทุม คำตัน อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.7 ต.หนองพลับ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ว่า ได้รับคำสั่งจากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองพลับ ให้รื้อถอน “รั้วเมทัลชีทที่คร่อมคูน้ำความยาวประมาณ 35 เมตร ภายใน 30 วัน” หลังจากได้รับหนังสือ โดยอ้างว่ารั้วดังกล่าว “รุกล้ำคูน้ำสาธารณะ” ทั้งที่รั้วตั้งอยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ 68867 ซึ่งเป็นที่ดินส่วนตัวของนางปทุมมาแต่เดิม
นางปทุมระบุว่า เรื่องนี้ส่งผลให้ตนได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก เนื่องจากต้องเสียที่ดินให้เป็นสาธารณประโยชน์ ทั้งที่ตนไม่เคยอุทิศที่ดินหรืออนุญาตให้เป็นพื้นที่สาธารณะ เพียงแต่ให้ชาวบ้านใช้น้ำจากคูน้ำในการทำนาเท่านั้น
ต่อมา นายกองโท สมศักดิ์ แย้มพันธุ์นุ้ย นายอำเภอเมืองเพชรบุรี ได้สั่งการให้ นายชิษณุ คำสังข์ ปลัดอำเภอเมืองเพชรบุรี พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ เรืองสิน นายก อบต.หนองพลับ ปลัด อบต.หนองพลับ เจ้าหน้าที่รางวัด และชลประทานเพชรบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
พบว่าโครงการคูน้ำสาธารณะมีมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งชลประทานดำเนินการให้ชาวบ้านใช้เพื่อการเกษตร จากนั้นได้ส่งมอบให้ อบต.หนองพลับ กำกับดูแล โดยคูน้ำดังกล่าวพาดผ่านที่ดินของนางปทุมโดยเจ้าของที่ดินไม่เคยอุทิศหรืออนุญาตให้เป็นพื้นที่สาธารณะ
นางปทุมจึงยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดเพชรบุรี เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง หลังตรวจสอบ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดเพชรบุรี วินิจฉัยว่า รั้วของนางปทุมตั้งอยู่บนกรรมสิทธิ์ที่ดินของตนเอง ไม่ติดกับที่ดินสาธารณะ ความสูงของรั้วไม่ถึง 10 เมตร จึงไม่ถือเป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
ทั้งนี้ ได้มีการหารือเรื่องคูน้ำความยาวประมาณ 35 เมตร ที่พาดผ่านที่ดินของนางปทุม แต่ไม่สามารถชี้แนวเขตได้ เนื่องจาก อบต.หนองพลับ และปกครองอำเภอเมืองเพชรบุรี มีหน้าที่กำกับดูแลทรัพย์สินสาธารณะที่ได้รับโอนมาจากชลประทาน ไม่ให้สูญหาย
เจ้าหน้าที่ชลประทานเพชรบุรีที่มาร่วมตรวจสอบแจ้งว่า ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากโครงการนี้มีมานาน ต้องประสานตรวจสอบกับ ผอ.ชลประทานเพชรบุรีอีกครั้ง
ล่าสุด นายณรงค์ศักดิ์ เรืองสิน นายก อบต.หนองพลับ ระบุว่าจะทำหนังสือถึงชลประทานเพชรบุรี เพื่อขอเอกสารชี้แจงและตรวจสอบแนวเขตคูน้ำ เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่ายต่อไป
