ป.ป.ส. แถลงผลจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดชาวเวียดนาม ซุกซ่อนคีตามีนจากเนเธอร์แลนด์ 5.2 กิโลกรัม
1 min read
ป.ป.ส. แถลงผลจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดชาวเวียดนาม ซุกซ่อนคีตามีนจากเนเธอร์แลนด์ 5.2 กิโลกรัม ขยายผลยึดยาอีพร้อมเครื่องอัดเม็ดและหัวตอก logo เตรียมผลิตส่งจําหน่ายในสถานบันเทิงและลักลอบส่งกลับเวียดนาม
วันนี้(21 ส.ค. 68) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และผู้แทนจากฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก กรมศุลกากร และบริษัทไปรษณีย์ไทย จํากัด ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวเวียดนาม พร้อมตรวจยึดของกลางยาเสพติด เครื่องอัดเม็ดและหัวตอก
โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย – เวียดนาม ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 17 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการสืบสวนและปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยมีประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์เนื่องจากพบว่านักค้ายาเสพติดชาวเวียดนามที่ผลิตเอ็กซ์ตาซี (ยาอี) ในปัจจุบันถูกกวาดล้างและจับกุมอย่างหนักภายในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งในปีที่ผ่านมีการจับกุมยาบ้าและเอ็กซ์ตาซี (ยาอี) รวมกว่า 3 ล้านเม็ด โดยมีแนวโน้มที่นักค้ายาเสพติดชาวเวียดนามจะเข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทยเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งการผลิต และจำหน่าย จึงมอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์
ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สํานักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการสืบสวนและติดตามพฤติการณ์เครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวเวียดนามอย่างใกล้ชิด

สําหรับการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา สํานักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ กรมศุลกากร ศูนย์รักษาความปลอดภัยกองบัญชาการกองทัพไทย ตํารวจ สน.ทุ่งสองห้อง กรมข่าวทหารบก และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ตรวจยึดคีตามีน 5,200 กรัม บรรจุในพัสดุระหว่างประเทศ ซุกซ่อนอําพรางมากับถุงขนมต้นทางประเทศเนเธอร์แลนด์ จากนั้นได้ทําการสืบสวนขยายผลไปยังผู้รับพัสดุกล่าว
ต่อมาวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่ระบุเป็นสถานที่จัดส่ง กระทั่งพบชายชาวเวียดนาม 2 คน เป็นผู้มาติดต่อขอรับพัสดุ จึงแสดงตัวจับกุมจากนั้นนําตัวไปตรวจค้นเพิ่มเติมภายในบ้านเช่าย่านลาดพร้าว พบชายชาวเวียดนามอีก 2 คน รวมจับกุมผู้ต้องหา 4 คน พร้อมเอ็กซ์ตาชี (ยาอี) 514 เม็ด ผงยาอี เครื่องอัดเม็ดอัตโนมัติที่สามารถได้วันละกว่า 1 แสนเม็ด และหัวตอกยาอี logo ต่างๆ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าเตรียมนำคีตามีนมาผสมกับ MDMA ให้เป็นผงยาอีและทำการอัดเม็ด เพื่อเพิ่มการออกฤทธิ์ของยาเสพติด จากนั้นให้บุคคลในเครือข่ายนำไปจำหน่ายในสถานบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยวในลักษณะปิดหรือรู้จักกันในกลุ่มเท่านั้น ซึ่งยาดังกล่าวที่นํามาผสมเพิ่มหากเสพเข้าและดื่มกับนํ้าหวานหรทอแอลกอฮอล์จะทําให้หัวใจหายเฉียบพลันจนถึงขั้นเสีนชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เอ็กซ์ตาซี (ยาอี) บางส่วนถูกลักลอบส่งกลับไปจำหน่ายที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามแล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ระบุว่า ปัญหาการค้ายาเสพติดในลักษณะเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาค และมีความพยายามลักลอบค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิดในการบูรณาการความร่วมมือจนนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ในการสืบสวนขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม
