ตำรวจทางหลวงทลาย 2 เครือข่ายหลอกจำนำรถ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท จับผู้ต้องหา 7 คน
1 min read
พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. , พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล และ พ.ต.อ.สาธิต สมานภาพ ผกก.5 บก.ทล และชุดปฏิบัติงาน ได้ร่วมกันแถลงข่าว ปฏิบัติการ CAR SCAMS ทลาย 2 เครือข่ายหลอกลวงประชาชนจำนำรถ ส่งขายทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 7 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 บก.ทล ระบุว่า ในการจับกุมครั้งนี้มี 2 เครือข่าย เครือข่ายแรก ผู้เสียหายได้ติดต่อมายังสายด่วนของตำรวจทางหลวง 1193 เล่าว่า ผู้เสียหายมีปัญหาเรื่องเงินและบังเอิญไปเจอกับเพจ Facebook ของคนร้ายที่มีการชักชวน ว่าใครเดือดร้อนเรื่องเงินให้นำรถติดไฟแนนซ์มาจำนำ ทางผู้เสียหายจึงติดต่อไป จากนั้นคนร้ายได้ให้ผู้เสียหายถ่ายรูปรถให้คนร้ายดู และก็มีการตีราคาให้ที่ 77,000 บาท จากนั้นก็มีการนัดส่งมอบรถกันที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีการโอนรถให้กันเป็นการโอนลอย และคนร้ายก็ได้โอนเงินให้ผู้เสียหาย / แต่ต่อมาในวันรุ่งขึ้นทางญาติเห็นใจผู้เสียหายจึงอยากจะช่วยไถ่รถคืน ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อกลับไปที่คนร้ายอีกรอบหนึ่ง ถามถึงยอดการไถ่คืนว่าเท่าไหร่ ทางคนร้ายบอกว่าต้องโอนเงินมา 90,000 บาทรวมดอกเบี้ย ผู้เสียหายก็ได้โอนเงินไปจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้อีกเลย ผู้เสียหายเสียทั้งเงิน เสียทั้งรถ และยังต้องรับภาระผ่อนกับไฟแนนซ์ต่ออีก

เมื่อทางตำรวจได้รับเรื่องก็ใช้เวลาสืบสวนคดีนี้ 2 สัปดาห์ ทำให้รู้กระบวนการของกลุ่มคนร้าย โดยมีทั้งหมด 4 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นนายหน้าโพสหาลูกค้าทาง Facebook / กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มเคลื่อนย้ายรถ / กลุ่มที่ 3 เป็นบัญชีม้า / และกลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มนายทุน // และยังรู้อีกว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ จะหลอกลวงเฉพาะผู้เสียหายที่รถติดไฟแนนซ์เท่านั้น เพราะว่าผู้เสียหายจะไม่สามารถแจ้งความได้ในทันที เพราะผู้ถือกรรมสิทธิ์คือบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการค่อนข้างนาน และยังพบอีกว่าคนร้ายใช้ระยะเวลา 8-9 ปี ก่อเหตุแบบเดิม 40-50 ทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนรถที่คนรายได้ไปแล้วนั้น ก็เป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง เพราะมีการโอนชื่อรถเป็นชื่อของคนร้ายแล้ว // หลังจากที่รวบรวมพยานหลักฐานครบทุกมิติแล้ว ทางตำรวจทางหลวงก็ได้ประสานไปยัง สภ.แม่ฮ่องสอน คุณสามารถออกหมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 ราย ทั้งผู้ที่มีหน้าที่เช่ารถยนต์มาใช้ในการก่อเหตุ / คนที่คอยหว่านล้อมผู้เสียหายให้หลงเชื่อ / คนเคลื่อนย้ายรถ / บัญชีม้า / และยังมีการซัดทอดไปยังนายทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
จากการซักถามผู้ต้องหาที่เป็นคนเคลื่อนย้ายรถให้การว่า ได้รับเงินจากนายทุน พี่เอาไปจ่ายให้กับกระบวนการ และนำรถที่หลอกได้มาไปส่งในพื้นที่ของภาคอีสาน
เครือข่ายที่ 2 เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา ผู้เสียหายเล่าว่า ตนสูญเสียรถคันแกของชีวิตไป / โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รู้จักกับคนร้ายผ่านทาง facebook ในตอนนั้นตนมีปัญหาเรื่องเงินจึงจะทำเรื่องกู้ โดยคนร้ายก็อ้างตัวว่าเป็นนายหน้าคนกลางให้กู้เงิน แอบอ้างเป็นคนมียศฐาบรรดาศักดิ์ อ้างว่าประกอบธุรกิจใหญ่และเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าดำเนินการไปกว่า 200 ครั้งเป็นเงินกว่า 150,000 บาท จากนั้นคนร้ายก็ทำทีเป็นห่วงเป็นใย และมีการพูดคุยกันเชิงชู้สาว ก่อนจะบอกว่าเอกสารของผู้เสียหายไม่ผ่าน และผู้เสียหายนำรถมาประเมินราคาเปรียบเสมือนรถแลกเงิน ผู้เสียหายเห็นว่าตนเสียเงินไปจำนวนนึงแล้วจึงนำรถไปให้ โดยจอดไว้ที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ของ สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้เจอหน้ากับคนร้าย จากนั้นคนร้ายก็ได้นำรถของผู้เสียหายไปปล่อยขายในตลาดมืด ทางตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง และขอศาลอนุมัติหมายจับ และก็สามารถตามจับตัวผู้ต้องหาได้สำเร็จ โดยเคสนี้มีผู้เสียหาย 4 จังหวัด คือ จ.นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ และระยอง ในเคสนี้ตำรวจได้ขยายผล และติดตามรถคืนให้ผู้เสียหายได้เพิ่มเติม 5 คัน


จะอยากฝากถึงประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อการโฆษณารับจำนำรถยนต์ที่ติดสัญญาณไฟแนนซ์หรือการเสนอเงื่อนไขที่เกินจริง ควรปรึกษากับสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้และถูกกฎหมายเท่านั้น