ตำรวจนครบาลรวบเครือข่ายยาเสพติด “เอฟ ร่มเกล้า” ยึดยาบ้า 1.4 แสนเม็ด

ตามนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล ตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนนครบาลเร่งกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจัง

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.สส.2 บก.สส.บช.น.) ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดีสำคัญหลายคดี จนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่เคหะร่มเกล้า ลาดกระบัง ใช้รถแท็กซี่เป็นยานพาหนะในการลักลอบขนยาเสพติดเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยมีปลายทางส่งลงภาคใต้

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ได้พบความเคลื่อนไหวของรถแท็กซี่ต้องสงสัย 2 คัน ที่ขับตามกันออกจากเคหะร่มเกล้า มุ่งหน้าไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่จึงติดตามสะกดรอยอย่างใกล้ชิด

ต่อมาเวลาประมาณ 00.50 น. ของวันที่ 2 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ได้สกัดจับรถแท็กซี่คันหนึ่งได้ที่หน้าปั๊มแก๊สพีที แอลพีจี ถนนบรมราชชนนี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พบคนขับคือ นายวรภพ บริกรมบดีศร อายุ 39 ปี จากการตรวจค้นท้ายรถ พบ ยาบ้า จำนวน 70 ห่อ รวมของกลางทั้งหมด 140,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสัมภาระ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งได้ติดตามรถแท็กซี่อีกคันที่ขับหลบหนีไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ธรรมศาลา จ.นครปฐม และสามารถจับกุมคนขับคือ นายธนธร ภู่ระย้า อายุ 46 ปี ไว้ได้

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ”

และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่า นายวรภพ ผู้ต้องหาที่ 1 เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษเมื่อปี พ.ศ. 2563 ส่วนนายธนธร ผู้ต้องหาที่ 2 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการ

ผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมของกลาง ประกอบด้วย ยาบ้า 140,000 เม็ด, รถยนต์แท็กซี่ 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงินสด 324,200 บาท ถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป