กมธ.กฎหมายฯ รับ 2 คดีดังบางละมุง ชลบุรี บี้ตำรวจเร่งคดีหญิงไทยถูกทำร้าย–เยาวชนถูกนักการเมืองอนาจาร

วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายเกียรติคุณ ต้นยาง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน (กมธ.) รับเรื่องร้องเรียนจากนายจรัส คุ้มไข่น้ำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน พร้อมทีมทนายความและญาติของผู้เสียหาย รวม 2 คดีสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอบางละมุงและพื้นที่ใกล้เคียง จังหวัดชลบุรี

คดีแรก เป็นกรณีหญิงไทยวัยกลางคนถูกชาวต่างชาติซึ่งเป็นคู่รัก ทำร้ายร่างกายภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องผ่าตัดถึง 8 ครั้ง และกลายเป็นผู้พิการถาวรไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่างได้ แต่ตลอดเวลากว่า 6 ปี คดีกลับไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากพนักงานสอบสวนระบุว่า “ผู้เสียหายพลัดตกเอง” ส่งผลให้ผู้ต้องสงสัยหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนจะมีการออกหมายจับในปี 2567 และเพิ่งมีการยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อเดือนสิงหาคม 2568 ครอบครัวผู้เสียหายยืนยันว่ามีหลักฐานทางการแพทย์ ภาพถ่าย และคำให้การจากบุคคลใกล้ชิดครบถ้วน แต่กลับถูกละเลยในขั้นตอนสอบสวน จึงร้องต่อ กมธ. เพื่อให้ตรวจสอบสาเหตุความล่าช้าและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมและเยียวยา

ส่วนคดีที่สอง เป็นกรณีบิดาของเยาวชนหญิงวัย 14 ปี เข้าร้องเรียนว่า บุตรสาวถูกนักการเมืองท้องถิ่นในอำเภอบางละมุงกระทำอนาจารต่อเนื่องหลายปี ระหว่างใช้บริการรถรับ–ส่งนักเรียน ซึ่งนักการเมืองรายดังกล่าวเป็นผู้ขับเอง ผู้ก่อเหตุข่มขู่ไม่ให้เปิดเผย กระทั่งครอบครัวทราบเรื่องและแจ้งความเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 แต่คดีกลับดำเนินไปอย่างล่าช้า และมีกลุ่มบุคคลพยายามกดดันให้ยุติเรื่อง ครอบครัวได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้ตรวจสอบด้านวินัยและจริยธรรมของนักการเมืองรายนี้ แต่คดียังไม่คืบหน้า ขณะเดียวกัน เยาวชนผู้เสียหายมีภาวะเครียดและซึมเศร้า ต้องได้รับการดูแลด้านจิตใจอย่างต่อเนื่อง ครอบครัวจึงขอให้ กมธ. เร่งรัดการดำเนินคดีทั้งทางอาญาและจริยธรรม พร้อมจัดมาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพ

นายเกียรติคุณ ต้นยาง ระบุว่า กมธ.จะรีบนำทั้งสองเรื่องเข้าสู่วาระการประชุมโดยด่วน พร้อมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ผู้กำกับท้องที่ และพนักงานสอบสวน เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุความล่าช้า ย้ำว่า “ความล่าช้าในกระบวนการยุติธรรม คือความไม่เป็นธรรม” และยืนยันว่า กมธ.จะดำเนินการภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ เพื่อให้ผู้เสียหายทั้งสองคดีได้รับความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด