“สารวัตรแจ๊ะ” ปฏิบัติการเดือด! บุกทลายแก๊งแขกขาว ค้ายากลางกรุง ฉายาสะเทือนวงการ “ซื้ดเดียวถึงยอดพีระมิด”
1 min read
กรุงเทพมหานคร-ตำรวจนครบาลทลายรัง “แขกขาว” ค้ายาเสพติดสุดพิสดาร เปิดร้านตัดผมบังหน้า มี “ห้องลับ” สุดบรรเจิด ชวนลูกค้า “ซื้ดเดียวถึงยอดพีระมิด” รวบ 7 ต่างชาติ 1 ไทย ยึดยาเสพติดเพียบ
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 68 เวลา 23.00 น. ตำรวจนครบาลภายใต้การสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้บุกทลายแหล่งซ่องสุมและจำหน่ายยาเสพติดของกลุ่มชาวต่างชาติ (แขกขาว) ย่านนานา ใน “ปฏิบัติการทลายรังแขก” โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 8 ราย เป็นชาวต่างชาติ 7 คน และหญิงไทย 1 คน พร้อมยึดของกลางยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายจำนวนมาก
สืบเนื่องจาก ผบ.ตร. มีนโยบายให้สแกนพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อป้องกันอาชญากรรม ชุดสืบสวนได้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวลงพื้นที่ซอยสุขุมวิท 3 กระทั่งพบกลุ่มชายชาวต่างชาติมีพิรุธ ชักชวนตำรวจอำพรางซื้อยาเสพติดด้วยคำพูดเชื้อเชิญสุดแปลกที่ว่า “เพียงแค่ซื้ดครั้งเดียวก็ทำให้ได้ไปอยู่บนยอดพีระมิดได้เลย”
เมื่อตำรวจตามเข้าไปในอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ก็พบว่าชั้นบนสุดเปิดเป็น “ร้านตัดผมชาวอาหรับ” บังหน้า แต่มี “ห้องลับ” ซ่อนอยู่ด้านหลังไว้สำหรับให้ลูกค้าเสพยาเสพติดโดยเฉพาะ ก่อนที่คนร้ายจะเสนอขายยาเสพติดให้ตำรวจอำพราง

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. จึงสั่งบุกทลายทันที โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ศอ.ปส.บช.น. และ บก.สส.บช.น. พร้อมประสานสุนัขดมกลิ่น “จีจี้” และ “อาลฟ่า” มาช่วยในการตรวจค้น เนื่องจากคนร้ายซุกซ่อนยาเสพติดอย่างแนบเนียน จนกระทั่งพบว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ใน แกนกลางของเครื่องปั่นน้ำผลไม้


จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาเสพติดหลายรายการ อาทิ ยาอี 4 เม็ด, ยาไอซ์ 3.3 กรัม, โคเคน 1.7 กรัม, ยาบ้า 2 เม็ด และเห็ดเมา 7 ซอง รวมถึงเตาบารากุ 23 หม้อ, บุหรี่เถื่อน และเงินสดกว่า 129,000 บาท จับกุมทั้งหมด 8 ราย โดยมี 2 ราย ถูกแจ้งข้อหาหนักในความผิด “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1” คือ MR.Mina farouk sorian khalil (ชาวอียิปต์)
นางฉลองขวัญ (ชาวไทย) ซึ่งให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนเองเพียงแต่ขายกัญชาและเปิดร้านทำผมเท่านั้น ส่วนยาเสพติดเป็นของคนอื่น
นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมในความผิดฐานอื่นๆ เช่น ร่วมจำหน่ายยาเสพติด (ชาวเมียนมาร์ 1 ราย) และความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และ พ.ร.บ.ศุลกากร

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. ระบุว่า จากการขยายผลพบว่ากลุ่มนี้ทำเป็นขบวนการและอาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดรูปแบบอื่น รวมถึงการเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ สร้างความหวาดกลัวและทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ผบช.น. ได้สั่งการให้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในลักษณะนี้อย่างจริงจังเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของ ผบ.ตร.


