เปิดโปง “คุก VIP กรุงเทพฯ” สะเทือนระบบราชทัณฑ์ รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่เอง ลั่นต้องลากคอคนผิดให้ได้
1 min read
คดีอื้อฉาวภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระอุอีกครั้ง หลังมีข้อมูลยืนยันว่า หญิงชาวจีนถูกเปิดทางให้เข้าสู่เขตต้องห้ามของเรือนจำได้อย่างง่ายดาย เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อระบบราชทัณฑ์อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และทำให้สังคมตั้งคำถามถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ควร “เข้มกว่านี้หลายเท่า”
หลังเรื่องแดงขึ้น พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรียกประชุมฉุกเฉินทันที พร้อมสั่งเปิดยุทธการตรวจสอบทุกจุด ตั้งแต่ด่านคัดกรองจนถึงพื้นที่ภายในเรือนจำ เพื่อหาคำตอบว่าใครเป็นผู้เปิดทาง และช่องโหว่ใดทำให้หญิงต่างชาติทะลุเข้าพื้นที่ต้องห้ามได้
รมว.ยุติธรรมเปิดเผยว่า คดีนี้มี “เงื่อนงำทางผลประโยชน์” ที่อาจเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย จึงมอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเรื่องไปสืบสวนเชิงลึก พร้อมประสานสำนักงานปปง. ไล่ตรวจเส้นทางเงินทุกบาททุกสตางค์ โดยเน้นหาผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการจัดอภิสิทธิ์ให้ผู้ต้องขัง
ภายในเรือนจำพบว่ามีผู้ต้องขังสัญชาติจีนกลุ่ม “จีนเทา” กว่า 200 ราย ซึ่งขณะนี้ระบุได้แล้วว่า 2 รายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่เรือนจำพบผู้เกี่ยวข้องแล้วอย่างน้อย 7 นาย และมีหลักฐานว่าห้องผู้คุมบางพื้นที่ถูกดัดแปลงให้มีลักษณะคล้าย “ห้องรับรองพิเศษ” ซึ่งไม่ควรปรากฏในสถานที่ควบคุมตัวใดๆ
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีบางช่วงถูกลบไปอย่างผิดสังเกต แต่ทีมเทคนิคสามารถกู้ภาพกลับมาได้บางส่วน และพบผู้ต้องขังปรากฏตัวในพื้นที่ต้องห้ามอย่างชัดเจน โดยหลักฐานชุดนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้มีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่เป็นรายบุคคล
หญิงชาวจีนสองรายที่อยู่ในเหตุการณ์ให้การว่าเข้ามาเพียงเพื่อพบเจ้าหน้าที่ แต่ข้อมูลที่รัฐมนตรีได้รับชี้ว่า ทั้งคู่ “ทราบวัตถุประสงค์” ก่อนเดินทางเข้ามา และมาโดยสมัครใจ ขณะเดียวกันผู้ต้องขังชายที่เอี่ยวในคดีถูกย้ายออกจากเรือนจำทันทีเพื่อป้องกันการแทรกแซงกระบวนการสอบสวน
รมว.ยุติธรรมยืนยันว่าจะลงพื้นที่เรือนจำด้วยตัวเองในเวลา 09.00 น. วันพรุ่งนี้เพื่อตรวจจุดเกิดเหตุทุกจุด พร้อมประกาศชัดเจนว่า หากพบการทุจริตซ้ำอีกในเรือนจำใดทั่วประเทศ จะถือเป็น “ความผิดร้ายแรง” และจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด