ส.ส.เต้ ลุยน้ำท่วม เยี่ยม-ให้กำลังใจ-ดูพื้นที่ความเสียหาย อ.อินทบุรี-อ.บางระจัน-อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พร้อมดู ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี

ส.ส.เต้ ลุยน้ำท่วม เยี่ยม-ให้กำลังใจ-ดูพื้นที่ความเสียหาย อ.อินทบุรี-อ.บางระจัน-อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พร้อมดู ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี

เมื่อ 14 ต.ค.2565 พรรคไทยศรีวิไลย์  นำโดย นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรค , นายสรกฤช  จันทรคณา  โฆษกพรรค, นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค,นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค ,นายอนุรักษ์  อมรเมตตาจิตต์  อดีต ผู้ช่วยดำเนินงาน ส.ส.

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า วันนี้ลงเดินทางมาเยี่ยม-ให้กำลังใจ-ดูพื้นที่น้ำท่วมเสียหาย ใน ต.แม่ลา อ.บางระจัน- ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี ภาพรวม ทั้งจังหวัดสิงห์บุรี ท่วมทุกอำเภอ เดือดร้อนเกือบทุกตำบล พี่น้องประชาชน อยู่กับน้ำร่วม 15-30 วัน น้ำท่วมลึก 0.5-3 เมตร พื้นที่ จังหวัดสิงห์บุรี มีจ 822.5 ตร.กม. หรือ 514,062.5 ไร่ ถ้าน้ำท่วมสูง 1 เมตร เต็มพื้นที่ โดยเฉลี่ย 822.5 ล้าน ลบ.ม. หรือ 85.6% ของความจุน้ำทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบัน รัฐบาลกลาง โดยจังหวัดสิงห์บุรี ให้ถุงยังชีพแบบครอบครัวละ 1 ชุด กินได้ 3-4 วัน มีงบแค่ 20%-30% ไม่ครบทุกครอบครัว ลำพัง อบต.เบิกงบปี66 มาซื้อถุงยังชีพ จะได้แค่รอบเดียว ทุกครอบครัวกินได้ไม่เกิน 3 วัน แล้วหมด เพราะงบพัฒนาที่ตั้งโครงการไว้แล้วยกเลิกไม่ได้ ถ้าจะเอามาซื้อถุงยังชีพ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวเสริม ว่าต่อมาเดินทางมาดูประตูละบายน้ำบางโฉมศรี ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่างาม และตำบลชีน้ำร้าย ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจนไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้ เพื่อเรียกร้องขอให้กรมชลประทาน หรือผู้มีอำนาจ เปิดประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ปล่อยน้ำเข้าคลองบางโฉมศรี เพื่อให้ระดับน้ำลดลงเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่เดือดร้อนลงบ้าง เพราะบ้านถูกน้ำท่วมถึงชั้นที่สองแล้ว และประชาชนที่พักอาศัยอยู่บนถนนก็ยังถูกน้ำเอ่อมาท่วมอีก ในขณะเดียวกันก็มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่อยู่ท้ายประตูบางโฉมศรี ก็ได้เดินทางมาและขอเวลาอีกประมาณ 1 เดือน เพื่อเก็บเกี่ยวข้าวในนาข้าวก่อน ประการสำคัญที่คาดว่า ชลประทาน ไม่ยอมปล่อยน้ำเพราะเกรงว่า น้ำจะท่วม จังหวัดสิงห์บุรี อีกฝั่งนึงและเข้าตัวจังหวัดลพบุรี เหมือนสมัยน้ำท่วมปี 2554