“อัจฉริยะ” ยื่นหลักฐานเอาผิดอธิบดี ดีเอสไอ เพิ่มเติม มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับสินบนในการตรวจค้นบ้านกงสุลใหญ่นาอูรู

 "อัจฉริยะ" ยื่นหลักฐานเอาผิดอธิบดี ดีเอสไอ เพิ่มเติม มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับสินบนในการตรวจค้นบ้านกงสุลใหญ่นาอูรู เปิดบ้านเป็นแหล่งพักพิงนักธุรกิจสีเทา

 กรณีเจ้าหน้าที่รัฐรีดเงินกลุ่มนักธุรกิจสีเทาชาวจีน 9.5 ล้านบาท แลกกับปล่อยตัวผู้ต้องหาในบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหลักฐานเกี่ยวกับการ หนังสือคำสั่งการปฎิบัติราชการที่ลงนามโดยอธิบดีดีเอสไอ และแชทข้อความสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่หน้าห้องอธิบดี (ชื่อท๊อป) มักแชทขอความขอคำสนับสนุนกำลังตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ 191 เข้าร่วมตรวจค้น ซึ่งอาจจะขัดแย้งจากคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีดีเอสไอ ที่เผยว่าไม่มีส่วนรู้เห็น 

 นายอัจฉริยะ เผยว่าวันนี้นำข้อมูลมามอบให้เพื่อให้ตำรวจสอบและดำเนินคดีดีเอสไอ และผู้ที่้กี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยก่อนนี้ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้กับ บก.ปปป. และ ป.ป.ช. ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว สอดคล้องกับพยานอีก 2 ปากที่จะเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม ว่าการกระทำของของผู้ที่เกี่ยวข้องในการออกคำสั่งเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เพราะพบพิรุธอีกหลายอย่างในขั้นตอนการออกคำสั่ง ยืนยันมีหลักฐานชัดเจนที่จะเอาผิดผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้

 ขณะที่ตำรวจได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันนี้แล้วรวมกว่า 3 ปาก ซึ่งมีรายงานว่า 1 ในนั้น เป็นเจ้าหน้าที่หน้าห้องอธิบดี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบริหารคดีพิเศษ เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และระเบียบกฎเกณฑ์ ให้กับพนักงานสอบสวน โดยเผยกับทีมข่าวว่าหนังสื่อที่นายิัจฉริยะนำมาเป็นหลักฐานคือหนังสืออนุมัติปฎิบัติหน้าที่ราชการนอกสถานที่ ไม่ใช่หนังสือการอนุมัติในการสืบสวนคดี แต่ในส่วนของหนังสืออนุมัติคำสั่งสอบสวนคดี ตัวเองยังไม่รู้เห็น ซึ่งหากมีคำสั่งจรืงต้องไปดูว่าชุดปฎิบัติงานทำนอกนอกเหนือคำสั่งหรือไม่