อาทิตย์. ก.ค. 13th, 2025

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ด่วน!รวบแล้วแก๊งคนไทยอุ้มคนจีนไปเรียกค่าไถ่กว่า 4 ล้านบาท

1 min read

เมื่อเวลา 12:30 มีรายงานข่าวว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีแก๊งค์คนไทยอุ้มคนจีนไปรีดไถเรียกค่าไถ่กว่า 4 ล้านบาท ที่สน.ลุมพินี ซึ่งเวลาประมาณ 13:00 ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเดินทางมาร่วมประชุมด้วย

ต่อมาเวลา 13:11 พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา โดยนาย YU นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ สน.ลุมพินีว่าไม่สามารถติดต่อนาย WANG เพื่อนชาวจีนของตนได้หลายวัน จนกระทั่งนาย WANG ได้ติดต่อกลับมาเมื่อวันที่ 16 เมษายน โดยได้วีดีโอคอลพร้อมระบุว่า “ไม่ต้องไปแจ้งความ เดี๋ยวคนร้ายจะปล่อยตัวถ้าโอนเงินมา” นาย YU เห็นสภาพเพื่อนพบว่าบริเวณใบหน้ามีการบอบช้ำและเกิดความไม่สบายใจกลัวเพื่อนจะถูกฆ่าทิ้งจึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความ

จากแนวทางการสืบสวนพติการณ์ก่อเหตุ พบว่านาย WANG ผู้เสียหายมีแฟนเป็นหญิงสาวชาวไทย ชื่อน้ำเพชร ซึ่งคบกันมาเป็นระยะกว่า 1 ปี และได้มีการเลิกลากันไป 3 เดือน ก่อนที่จะกลับมาคบกันอีกครั้ง โดยผู้หญิงทราบว่านาย WANG มีเงินและมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมากและเป็นคนกลุ่มจีนสีเทา เนื่องจากมีหมายจับของตำรวจจีน เชื่อว่านาย WANG คงไม่กล้าแจ้งความ จึงวางแผนกับนายกาย ชายชาวไทย ซึ่งเป็นกิ๊กกับน้ำเพชร เพื่อร่วมกันก่อเหตุอุ้มไปเรียกค่าไถ่ โดยใช้รถเบนซ์รุ่น G-Class สีฟ้า 4 ประตู เลขทะเบียน น-6987 กทม. ซึ่งเป็นรถที่นาย WANG ซื้อให้แฟนสาว นำมาใช้สำหรับก่อเหตุ

กระทั่งเมื่อวันที่ 14 เมษายน เวลาประมาณ 19:00 กลุ่มชาวไทยผู้ก่อเหตุประมาณ 3 คน ประกอบไปด้วย นายกาย และเพื่อนอีกสองคนคือนายกบกับนายโจ ได้เดินทางมาที่คอนโดมิเนียมย่านหลังสวน ซึ่งเป็นคอนโดของนาย WANG ใช้พักอาศัยร่วมกับแฟนสาว โดยนายกายได้จอดรอบนรถ ส่วนนายกบและนายกายได้ใช้คีย์การ์ดที่แฟนสาวผู้เสียหายได้มอบไว้ให้ ขึ้นไปที่ห้องที่อยู่บนคอนโดเพื่อเปิดประตูห้องก่อนจะล็อกตัวนาย WANG จับมัดมือ มัดเท้าขังไว้ในห้องพร้อมกับทำร้ายร่างกายนาย WANG จนหมดสติ

จากนั้นได้มีการใช้โทรศัพท์ของนาย WANG คุยกับ รปภ.ข้างล่างขอยืมรถเข็นในการขนของ ก่อนที่จะนำลังพลาสติกขนาดใหญ่จับนาย WANG ยัดใส่กล่องพลาสติกแล้วเข็นลงมาขึ้นรถเบนซ์ที่จอดรออยู่แล้วรถขับออกไปจากคอนโดไปขังผู้เสียหายไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1 คืน โดยมีนายจูน ผู้ร่วมก่อเหตุอีกราย เดินทางตามมาสมทบเพื่อเฝ้าผู้เสียหาย

เมื่อถึงที่รีสอร์ท คนร้ายก็ได้ข่มขู่และซ้อมทำร้ายร่างกายนาย WANG ก่อนที่จะวีดีโอคอลไปหาเพื่อนของผู้เสียหาย คือ นาย YU ว่าไม่ให้แจ้งความกับตำรวจ จากนั้นบังคับให้นายหวังโอนเงินเข้าบัญชีนายกบ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกจำนวน 2 ล้านบาท ต่อมาครั้งที่สองโอนเพิ่มอีก 9 แสนบาท จากนั้นก็โอนครั้งที่ 3 เข้าบัญชีของ น.ส.ตา จำนวน 1.03 ล้านบาท รวมเป็น 3.93 ล้าน ซึ่งขณะนี้สามารถอายัดเงินได้จำนวน 2.3 ล้าน และอยู่ในระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม

ในวันที่ 16 เมษายนช่วงเย็น เมื่อผู้ก่อเหตุได้เงินตามที่ต้องการแล้ว ก็ทำทีจะมาปล่อยตัวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยนาย WANG ได้ลักลอบส่งข้อมูลให้เพื่อนชาวจีนจนสามารถประสานให้ตำรวจท้องที่ สภ.หัวหิน ติดตามและให้การเข้าช่วยเหลือและสามารถเข้าจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวไทยได้ 1 ราย คือ นายกบ

ต่อมาได้มีการขออนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุ 4 หมายในวันนี่ ประกอบด้วยนายกาย นายโจ นายจูน และ น.ส.ตา ซึ่งล่าสุดสามารถจับกุมตัวนายจูนได้แล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริง โดยอยู่ในระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติม คาดว่าน่าจะนำตัวนายกบไปฝากขังวันพรุ่งนี้ เนื่องจากใกล้ครบกำหนดควบคุมตัวภายใน 48 ชั่วโมงตามกฎหมาย

ส่วนน้ำเพชร แฟนสาวของผู้เสียหาย จากข้อมูลพบว่าเป็นอดีตผู้เข้าประกวดเวทีนางงามชื่อดัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับ และยังหลบหนีอยู่ในประเทศ

ฉะนั้นกล่าวโดยสรุปคือ ขบวนการนี้เบื้องต้นมีผู้ก่อเหตุ 6 ราย แบ่งเป็น

ผู้ต้องหาที่จับได้ซึ่งหน้า

  • นายกบ ทำหน้าที่ขึ้นไปอุ้มและซ้อมผู้เสียหาย แล้วจับยัดลงกล่อง พร้อมทั้งเป็นผู้รับเงินจากผู้เสียหายกว่า 2.9 ล้านบาท (จับได้แล้ว)

ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้แก่

  • นายโจ ทำหน้าที่ขึ้นไปอุ้มและซ้อมผู้เสียหาย แล้วจับยัดลงกล่อง (ยังจับไม่ได้)
  • นายจูน ทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้เสียหายที่รีสอร์ท (จับได้แล้ว)
  • นายกาย ทำหน้าที่เป็นหัวโจก ร่วมกันวางแผน และเป็นคนขับรถ (ยังจับไม่ได้)
  • น.ส.ตา ทำหน้าที่เป็นผู้รับโอนเงิน 1.03 ล้านบาท (ยังจับไม่ได้)

ผู้ต้องหาที่เตรียมถูกออกหมายจับ คือ

  • น.ส.น้ำเพชร ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ข้อมูล ร่วมวางแผนลักพาตัวเรียกค่าไถ่ รวมถึงเป็นผู้อำนวยความสะดวกมนการให้คีย์การ์ดกับรถยนต์ อีกทั้งยังคบหาดูใจกับนายกายอีกด้วย (ยังจับไม่ได้)

โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าลิฟต์บริเวณชั้น 17 พบว่า ในวันเกิดเหตุ นายกบ สวมใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว-ดำ ใส่หมวกแก๊ป และนายโจ ผมยาว สวมเสื้อยืดน้ำเงินล้วน  ได้เข็นกล่องพลาสติกขนาดใหญ่เข้าไปภายในลิฟท์ โดยขณะที่เข้าลิฟท์ฝากล่องมีการถูกดันขึ้นโดยนาย WANG ทำให้นายกบต้องใช้มือกดปิดเอาไว้  จากนั้นขึ้นลิฟท์กดไปชั้นล่างซึ่งเป็นลานจอดรถ ก่อนจะช่วยกันยกกล่องขึ้นท้ายรถเบนซ์ แล้วเดินทางไป อ.หัวหิน ต่อไป ซึ่งกำลังเร่งสืบสวนขยายผลผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมและเส้นทางการเงินว่ามีออกไปนอกประเทศหรือไม่ ทั้งนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่า มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งอุ้มคนจีนที่ยานนาวาหรือแก๊งที่ผ่าน ๆ มาแต่อย่างใด

ส่วนนาย WANG ผู้เสียหายชาวจีน จากการตรวจสอบประวัติจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ประกอบกับได้ประสานไปยังทางการจีน พบว่าผู้เสียหายรายนี้เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของตำรวจจีนในคดีฉ้อโกงที่ประเทศจีน มูลค่า 12 ล้านหยวน หรือราว 60 ล้านบาทไทย  แต่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นหมายแดงในอินเตอร์โพล  ทำให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยที่ไม่มีประวัติหมายจับดังกล่าว

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เสียหายเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง โดยเดินทางเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวและมีแฟนชาวไทยคือ น.ส.น้ำเพชร มีคอนโดพักอาศัยอยู่ในย่านหลังสวน ซึ่งขณะนี้ได้กักตัวไว้ที่ ตม. เตรียมผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

ต่อมา 13:40 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายกบ หนึ่งในผู้ต้องหา ออกจากห้องขัง สน.ลุมพินี เพื่อไปชี้รถที่ใช้ก่อเหตุและจำลองเหตุการณ์ ซึ่งในระหว่างควบคุมตัว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่านายกบลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือไม่ นายกบพยักหน้า แล้วนายกบก็กล่าวรับสารภาพว่าตนกระทำความผิดจริง โดยตนถูกว่าจ้างมาจากนายกาย แต่ปฏิเสธขอไม่ตอบคำถามว่าได้รับค่าจ้างในการร่วมลงมือก่อเหตุครั้งนี้เท่าไรและทำไมถึงตัดสินใจร่วมก่อเหตุ

ส่วนวิธีการอุ้มรีดผู้เสียหาย นายกบกล่าวว่า ได้ร่วมกับนายโจ จับผู้เสียหายลงไปนอนในกล่องพลาสติกที่นายกบซื้อมา ในลักษณะนอนตะแคง งอขา มัดเท้าและมัดมือไว้ด้านหลัง แล้วปิดฝากล่อง เพื่อนำใส่รถเข็นลงมาที่ลานจอดรถ ก่อนจะนำกล่องขึ้นไว้ที่ท้ายรถแล้วเดินทางออกไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งขณะที่พาผู้เสียหายเดินทางไปยัง อ.หัวหิน ได้เปิดฝากล่อง เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถหายใจได้และแก้มันเชือกออก ถึงแม้ว่าจะมีอาการขัดขืนบ้างแต่ผู้เสียหายก็ยอมไปด้วย ยอมรับที่ลงมือชกต่อยทำร้ายร่างกายบนห้อง เนื่องจากมีการต่อสู้ขัดขืนจากผู้เสียหายจนเกิดความชุลมุน ซึ่งตลอดเวลาที่เดินทางผู้เสียหายยังมีสติรู้ตัวตลอดเวลา โดยหลังไปอยู่ที่รีสอร์ท ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายอีก ก่อนจะนำตัวกลับเข้าไปสอบปากคำใน สน. ซึ่งคาดว่าภายในวันพรุ่งซึ่งครบกำหนดควบคุมตัว 48 ชั่วโมง จะนำตัวนายกบไปฝากขังต่อไป

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.