นึกว่าเป็นศพ! โชคช่วยสุดล้มสลบลอยน้ำ ได้เพราะแกลลอนสดุ้งฟื้น กู้ภัยช่วยทัน
1 min read
หญิงวัย 46 ปี โชคดีในรอบชีวิต หลังจากไปหาหอยในลำห้วย แล้วเกิดเป็นลม ลื่นหงายลงในลำห้วย หมดสติแต่ไปล้มใส่แกลลอนที่พกไปด้วย ลอยน้ำไปถึงร้านอาหารชื่อดัง กู้ภัยมาช่วยรอดตายหวุดหวิด
วันที่ 10 มิ.ย 66 เวลา 17.00 น. หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุ พบศพลอยน้ำ อยู่บริเวณ คลองห้วยจรเข้มาก หลังร้านอาหารชื่อดังในหมู่บ้านแพรวพราวแลนด์ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงนำกำลังตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบ มีร่างผู้หญิง นอนลอยน้ำลักษณะนอนหงายหน้าพร้อมมีแกลอนอยู่ข้างฝั่ง เบื้องต้นกู้ภัยคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว และยังพบรองเท้าฟองน้ำคาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตลอยอยู่ริมฝั่ง จนท. จึงใช้เทปกั้นเขตขึงไว้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ร้อยเวรและแพทย์มาตรวจสอบตามขั้นตอน ช่วงเจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักข่าว รอเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์มาตรวจสอบ ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 20นาที ปรากฎว่าบริเวณที่พบศพเกิดมีเสียงตีน้ำดังขึ้น ทุกคนต่างตกใจ เพราะร่างที่คิดว่าเป็นศพลอยตอนแรก มีความเคลื่อนไหว ทั้ง จนท.กู้ภัยและพนักงานร้านอาหาร ต่างจะโกนเรียก ว่า “รู้ตัวไหม “ก่อนคนที่ลอยน้ำดังกล่าวรู้สึกตัวดี จึงรีบลงไปช่วยพยุงร่างผู้บาดเจ็บขึ้นฝั่งเพื่อปฐมพยาบาล ตรวจสอบเบื้องต้นตามร่างกายซีด พบมีแผลเลือดออกบริเวณ ขมับขวา จนท.จึงใช้เครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้ว พบยังมีออกซิเจนปกติ และปฐมพยาบาลเบื้องต้น


เมื่อสอบถามผู้บาดเจ็บยังมีอาการสะลึมสะลือ ยังงงกับเหตุการณ์อยู่สักพัก พอได้สติสามารถโต้ตอบได้ จึงสอบถามชื่อ ทราบชื่อต่อมา คือนาง ฝน อาศจักร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ม.15 ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่านางฝน มาหาหอยอยู่ริมห้วย ช่วงเกิดเหตุเกิดอาการวูบ แล้วจำอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งมารู้สึกตัวตอนที่มีเจ้าหน้าที่มาเรียกดังกล่าว

สอบถามนางสาว น้ำฝน เอื้องโสนก อายุ 37 ปี พนักงานร้านอาหาร เล่าว่า ตอนแรกขณะเตรียมร้านอยู่มีลุงเลี้ยงวัว วิ่งตาตั้งด้วยความตกใจมาบอกว่าเจอ ลักษณะคล้ายตุ๊กตาลอยอยู่บนน้ำ แต่พอลงไปดูอีกทีกลายเป็นร่างคน นอนลอยน้ำแน่นิ่งจึงรีบมาบอกให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

ขณะที่ นาย ณัฐวัชร อินช่วย อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ กล่าวว่า ยอมรับว่าเคสนี้เดาได้ยาก ตอนแรกคิดว่าเสียชีวิตแล้ว แต่เมื่อถึงเวลากลับฟื้นคืนมาได้ ครั้งนี้ถือว่าแกลลอนช่วยชีวิต

ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวบุรีรัมย์