ตำรวจ CIB รวบ “นัท ท่าขี้เหล็ก” มือดิวยาเสพติดข้ามชาติ ค่าหัว 1 แสนบาท ชะล่าใจกลับเข้าไทย

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้จับกุม นายนัฐพงศ์ฯ หรือ “นัท ท่าขี้เหล็ก” อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดรายสำคัญ และเป็นบุคคลที่มีค่าหัวนำจับ 100,000 บาท ตามโครงการประกาศสืบจับของ ป.ป.ส.

การจับกุมเกิดขึ้นที่ริมถนนหน้าบ้านแห่งหนึ่งใน อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อนายนัฐพงศ์ฯ ชะล่าใจกลับเข้ามาในประเทศไทยหลังจากหลบหนีไปกบดานที่ชายแดนเมียนมานานหลายปี

พฤติการณ์และเส้นทางการจับกุม เรื่องราวเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แกะรอย เครือข่ายยาเสพติด “แก๊งมอส คอลาย” ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือตอนบน ส่งไปยังลูกค้าในพื้นที่ตอนในของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง

บทบาทของ “นัท ท่าขี้เหล็ก” คือการจัดหายาเสพติดให้กับแก๊งนี้ โดยเขาเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่บริเวณรอยต่อชายแดนเชียงราย-เมียนมา ขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ทำหน้าที่ขนส่งและกระจายยาเสพติด

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่าย “แก๊งมอส คอลาย” ได้ 12 ราย พร้อมยึดยาบ้าของกลางประมาณ 951,000 เม็ด มูลค่า 50 ล้านบาท ยาไอซ์ 1,140 กรัม อาวุธปืน 8 กระบอก รถยนต์หรู 5 คัน และเงินในบัญชีธนาคารกว่า 3 ล้านบาท
จากการขยายผล ทราบว่ายาเสพติดล็อตนี้ถูกลักลอบนำเข้าจากอำเภอท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ข้ามชายแดนที่จังหวัดเชียงราย ก่อนนำมาพักไว้ในบ้านเช่า 2 หลังที่จังหวัดนครปฐม รวมกว่า 4,600,000 เม็ด

ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้งหมดให้การซัดทอดตรงกันว่า ยาบ้าจำนวนดังกล่าวได้มาจาก นายนัฐพงศ์ฯ หรือ “นัท ท่าขี้เหล็ก” และยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แก๊งนี้มีการติดต่อให้นายนัฐพงศ์ฯ จัดหายาเสพติดให้เดือนละ 4 ครั้ง แต่ละครั้งกว่า 4 ล้านเม็ด ซึ่งทำมาแล้วกว่า 6 เดือน คิดเป็นปริมาณยาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงมาจำหน่ายสำเร็จรวมกว่า 100 ล้านเม็ด

หลังศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ นายนัฐพงศ์ฯ ได้หลบหนีไปยังอำเภอท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปคม. ได้สืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง จนได้รับเบาะแสว่านายนัฐพงศ์ฯ ได้หลบหนีกลับมากบดานที่จังหวัดปราจีนบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด ผู้ต้องหาถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว จังหวัดนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป