ตำรวจ CIB รวบ 2 ทหารเกณฑ์หนีค่าย ลวงเด็กหญิงรุมโทรมซ้ำสอง
1 min read
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) สนธิกำลังเข้าจับกุมทหารเกณฑ์หนีทัพ 2 ราย ที่ร่วมกันก่อเหตุล่อลวงเด็กหญิงวัย 14 ปี ไปรุมโทรมถึงสองครั้งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยพฤติการณ์เหี้ยมโหดถึงขั้นรุมโทรมเด็กหญิงในลักษณะโทรมหญิง พร้อมกันนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาบางส่วนได้หลบหนีไป และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
สืบเนื่องจากปลายเดือนตุลาคม 2566 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ถูก น.ส.ชนันธิดา หรือฟ้า ซึ่งเป็นเพื่อน ชักชวนให้โดดเรียนไปที่บ้านเพื่อนแฟนเก่าของชนันธิดาฯ เมื่อไปถึง น.ส.เอ ถูกทิ้งให้อยู่ในห้องกับชาย 5 คน ซึ่งรวมถึง นายนพดลฯ อายุ 20 ปี และนายเกียรติศักดิ์ฯ อายุ 21 ปี หลังจากนั้นกลุ่มชายดังกล่าวได้ช่วยกันถอดเสื้อผ้า ปิดตา มัด น.ส.เอ และผลัดกันข่มขืนหลายครั้งก่อนจะแยกย้ายกันไป
ต่อมากลางเดือนพฤศจิกายน 2567 น.ส.ชนันธิดาฯ ได้ชักชวน น.ส.เอ อีกครั้ง โดยอ้างว่าจะไปหาแฟน เมื่อไปถึงขนำสองชั้น น.ส.เอ พบกลุ่มชายชุดเดิม 5 คน กำลังมั่วสุมเสพกัญชาอยู่ จากนั้นทั้งหมดได้ขัง น.ส.เอ ไว้ในขนำ แล้วผลัดกันขึ้นไปข่มขืนทีละคน ก่อนจะทิ้ง น.ส.เอ ไว้เพียงลำพัง น.ส.เอ ต้องเดินเท้ากลับบ้านเอง และไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟังเพราะความอับอายและความหวาดกลัว
ภายหลังมารดาของ น.ส.เอ ทราบเรื่อง จึงพาบุตรสาวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา แต่ไม่มีผู้ใดเข้าพบ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายนพดลฯ และนายเกียรติศักดิ์ฯ พร้อมพวกรวม 6 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. สืบทราบว่า นายนพดลฯ และนายเกียรติศักดิ์ฯ เป็นทหารเกณฑ์ที่หลบหนีค่ายทหาร และมาพักอาศัยอยู่ใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงวางแผนเข้าจับกุม โดยจับกุมนายนพดลฯ ได้ที่หลังบ้านใน ต.โพธิ์ทอง และจับกุมนายเกียรติศักดิ์ฯ ได้ที่ร้านน้ำชาไม่มีเลขที่ใน ต.ท่าศาลา ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน
ผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหา “ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร, ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม หรือร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง”
สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



