ตำรวจ CIB บุกรวบ 2 ผู้บริหารอาณาจักรร้านทอง ตุ๋นประชาชนเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
1 min read
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกับ บก.ปคบ. และ บก.ป. สนธิกำลังจับกุม นายพิพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี และ นายอาศุพล (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี สองผู้บริหารบริษัทร้านทองแห่งหนึ่ง หลังมีผู้เสียหายกว่า 69 ราย แจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันยักยอก, ฉ้อโกง, ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันฟอกเงิน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท
พฤติการณ์สุดแสบ: ซื้อ-ขาย-ฝาก-ลงทุน ไม่ได้อะไรสักอย่าง
จากการสอบสวนพบว่า บริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจซื้อขายและแลกเปลี่ยนทองคำผ่านหน้าร้านและแอปพลิเคชัน โดยมีกลลวงดังนี้:
เทรดทองคำแท่ง: ชักชวนให้เทรดทองคำผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของบริษัท
รับซื้อ-ขายทองคำ: เสนอราคาซื้อ-ขายทองคำที่สูงกว่าราคาทองคำที่สมาคมทองคำกำหนด
รับหลอมทองคำ: คิดค่าหลอมต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น
ในช่วงต้นปี 2568 บริษัทเริ่มมีพฤติกรรมผัดผ่อนการชำระเงินและการส่งมอบทองคำ เมื่อผู้เสียหายทวงถามก็บ่ายเบี่ยง จนกระทั่งวันที่ 1 เมษายน 2568 ได้ประกาศระงับการให้บริการทั้งหมด ทำให้ลูกค้าจำนวนมากได้รับความเสียหาย
CIB เดินหน้าคลี่คลายคดีซับซ้อน
เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและมูลค่าความเสียหายสูง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับจากศาล
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้น 3 จุด ใน
กรุงเทพมหานคร
จังหวัดนครราชสีมา และ
จังหวัดราชบุรี สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก อาทิ คอมพิวเตอร์ 22 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, โน้ตบุ๊ก 8 เครื่อง, โทเคนธนาคาร 9 ชิ้น, และเอกสารสำคัญอีก 14 ลัง นอกจากนี้ ยังได้อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง 21 บัญชี ยอดเงินรวมกว่า 54 ล้านบาท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการลงทุนหรือทำธุรกรรมเกี่ยวกับทองคำหรือสินทรัพย์มีค่าผ่านบริษัทเอกชนหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะกรณีที่มีการชักชวนให้ลงทุนด้วย ผลตอบแทนที่สูงผิดปกติ หรือเสนอเงื่อนไขที่ดูดีเกินจริง เช่น การรับซื้อทองในราคาสูงกว่าตลาด, การหลอมทองในราคาต่ำกว่าผู้ประกอบการทั่วไป, หรือการให้ผลตอบแทนเร็วโดยไม่มีความเสี่ยง
พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็น กลลวงที่เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และนำไปสู่ความเสียหายทางการเงินอย่างรุนแรง จึงแนะนำให้ประชาชน:
ตรวจสอบข้อมูลของบริษัท ก่อนตัดสินใจลงทุน
หลีกเลี่ยงการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลธรรมดา หรือบัญชีที่ไม่ใช่ของบริษัทโดยตรง
สอบถามหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ก่อนตัดสินใจลงทุนในรูปแบบที่ไม่คุ้นเคย
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการแจ้งเบาะแส สามารถติดต่อตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ


