บุรีรัมย์ โดน ตร. กดดันวัยรุ่นขาแว้นย้อนมาก่อกวนชาวบ้านเดือดร้อนจ่อเด็ดขาด

อำเภอเมือง//ชาวบ้านเดือดร้อนหนักโอด”เมืองอิทธิพล”วัยรุ่นขับรถก่อกวนตามถนนในเมือง ทะเลาะวิวาทขวางระเบิดปิงปอง ผู้ป่วยต้องย้ายไปนอนที่อื่น เผยมาประจำแทบทุกคืน คาดถูกตำรวจกวาดล้างรถแว้นก่อนหน้านี้บริเวณถนนรอบนอกจึงย้อนมาก่อความวุ่นวายในตัวเมือง

วันที่ 14 ก.ค.68 เพจท่านเปาโพสต์คลิปภาพวัยรุ่นก่อความวุ่นวายในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ พร้อมเสียงประกอบของคนถ่ายคลิป “เมืองอิทธิพล” ระบุข้อความว่า “ที่นี่บุรีรัมย์…วัยรุ่นยกพวกตีกันกลางดึก ไม่สนกฎหมาย ไม่เกรงใจใคร สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่ ฝากเจ้าหน้าที่ปกครองช่วยตรวจตราด้วย…”

เป็นคลิปภาพวงจรปิดและชาวบ้านแอบถ่ายอยู่ชั้นสองของบ้าน มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์หลายสิบคัน เบิ้ลเครื่องรถเสียงดับ ทะเลาะวิวาทกัน ขว้างระเบิดปิงปองเสียงดังสนั่นตอนเวลากลางคืน

ตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณริมคลองละลมลูกที่ 4 จากทั้งหมด 6 ลูก ตามถนนถนนและริมคลองละลม ฝั่งชุมชนหลักเมือง และบริเวณสะพานเดินข้ามคลองละลม พบเศษแก้ว รอยเลือดอยู่ทั่วบริเวณ

สอบถามนาง ทองใบ เติมตัวรัมย์ (เสื้อขาวดอกเหลือง) อายุ 49 ปี ชาวบ้าน อยู่เลขที่ 69/4 ชุมชนหลักเมือง ถนนนคร ต.ในเมือง เล่าว่า กลุ่มวัยรุ่นมาก่อความวุ่นวายแทบทุกคืน ส่วนใหญ่เป็นเวลาตี 2- ตี 4 จะได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์วิ่งผ่านไปมาหลายสิบคัน เบิ้ลเครื่องเสียงดัง มีการโต้เถียงกันของวัยรุ่นสองฝั่ง

นอกจากนั้นยังมีการวิ่งไล่ตามกันขว้างระเบิดปิงปองใส่กันเสียงดั่งสนั่น จนชาวบ้านต่างไม่ได้นอน ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ต้องย้ายไปนอนกับลูกหลานที่อื่น ตอนกลางวันถึงย้อนกลับมาบ้าน เป็นแบบนี้แทบทุกคืน จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่กวดขันเอาจริงกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้

ขณะนาง วรรณวิภา นพคุณ (เสื้อเขียว) อายุ 64 ปี ชาวบ้าน หนึ่งชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน บอกว่าตนป่วยเป็นโรคไตวาย ความดัน ก่อนหน้านี้ได้ยินทุกคืนจนโรคกำเริบ ลูกชายต้องเอาไปนอนที่อื่น แล้วค่อยกลับมาบ้านตอนกลางวัน ยอมรับว่าเดือดร้อนหนักในช่วงนี้

สอบถาม พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ภายในเขตเทศบาลไม่เคยมีปัญหาเรื่องวัยรุ่น พอมีการตรวจขันเรื่องรถแข่ง รถซิ่ง ที่มักจะแอบแข่งกันตอนกลางดึกตามถนนรอบนอกติดต่อกันเป็นประจำ ตอนนี้ไม่พบว่ามีการแข่งรถแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังกันวัยรุ่นย้อนมาอีก เหตุการณ์ครั้งนี้ คาดว่าวัยรุ่นน่าจะถูกกดดันจากรอบนอกแล้วย้อนมาก่อกวนในเมือง เตรียมจัดชุดป้องกันเหตุแล้ว