โฆษก ตร. สั่งจับตาหาข่าวอินฟูลทำคอนเท้นท์ยุยงปลุกปั่นทำร้ายชาวกัมพูชา และเพจเปิดรับบริจาคลวง

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์สู้รบระหว่างไทยและกัมพูชา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตามการพิทักษ์ส่วนหลังในดูแลทรัพย์สินของประชาชนและ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ตำรวจทุกนายยกระดับสั่งการให้ทุกกองบัญชาการ ตำรวจทุกสถานี สืบสวนหาข่าว กลุ่มบุคคลที่ใช้โซเชียลมีเดีย บิดเบือนข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการเปิดรับของบริจาคสิ่งของ และกลุ่มคนที่มีแนวโน้มใช้โซเชียลมีเดียอยู่โยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง ที่อาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย

ส่วนในพื้นที่จังหวัดตราด ที่ได้เกิดการปะทะขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 26 กรกฎาคม ตำรวจภูธรภาค2 ได้สนธิกำลังกับหน่วยงานความมั่นคงทางทหารประเมินความเสี่ยงและเข้าไปทำการอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ขณะที่มาตรการดูแลบริเวณด่านชายแดนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและตราดนั้น ยุทธการจะขึ้นกับฝ่ายทหาร โดยจะมีการเปิดด่านเป็นช่วงเวลาเพื่อที่จะให้คนไทยและคนกัมพูชาที่ต้องการจะกลับบ้านได้เดินทางเข้าออก และขอให้ประชาชนติดตามประกาศเพื่อที่จะได้ดำเนินการอย่างเรียบร้อย

ส่วนกรณีที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชาย 2 คน ในพื้นที่ อ.กาบเชิง จ. สุรินทร์ ไว้สอบสวน เนื่องจากพบว่าได้มีการพกพากล้องนำไปถ่ายตามพื้นที่ต่างๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร และรอการส่งกลับ แต่ระหว่างนี้ก็จะดำเนินการสืบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม วัตถุประสงค์ของการเข้ามาภายในประเทศไทย

ขณะนี้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ในจังหวัดศรีษะเกษ โดย ผบ.ตร.จะลงพื้นที่เพื่อไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน