ชาวบ้านร้องรัฐสภา! ถูกกดดันรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหน้าวัดอู่ล่อง ทั้งที่อยู่มานานกว่า 30 ปี – คณะกรรมาธิการฯ สั่งชะลอการไล่รื้อ

กาญจนบุรี – ชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ รวมตัวยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร หลังถูกเจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าอาวาสวัดอู่ล่องกดดันให้รื้อถอนบ้านและร้านค้าหน้าวัด ทั้งที่อาศัยในพื้นที่มากว่า 30 ปี ขณะคำขอใช้ที่ดินตามโครงการโฉนดชุมชนยังอยู่ระหว่างรังวัด ล่าสุดคณะกรรมาธิการฯ สั่งผู้ว่าฯ กาญจนบุรีชะลอคำสั่งรื้อถอนโดยด่วน

กรณีนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 นายสุวรรณ บัวโรย ตัวแทนชาวบ้านหมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กรณีข้อพิพาทสิทธิ์ในที่ดินบริเวณหน้าวัดอู่ล่อง โดยระบุว่าชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวมานานกว่า 30 ปี ใช้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและร้านค้าขายพืชผลทางการเกษตร

จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินประเภท ส.ป.ก. และยังไม่มีบุคคลหรือหน่วยงานใดได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ยื่นคำขอใช้สิทธิ์ตามโครงการโฉนดชุมชน ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบและรังวัด

อย่างไรก็ตาม ขณะรอผลการตรวจสอบ ชาวบ้านกลับถูกกดดันจากพระครูพิสุทธิ์กาญจนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดอู่ล่อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เช่น ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างโดยอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของวัด ทั้งที่ยังไม่มีข้อยุติทางกฎหมาย

ในวันที่ 7 มีนาคม 2568 มีการประชุมร่วมที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ โดยมีนายกฤษฎา มูลสวัสดิ์ ปลัดอำเภอทองผาภูมิ, นายนพดล นิ่มเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนวัดเข้าร่วม พร้อมลงมติให้ชาวบ้านรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 15 วัน หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกำหนดเส้นตายไว้ในวันที่ 22 มีนาคม 2568

จากแรงกดดันดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านรวมตัวร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชน พร้อมทั้งขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและเจ้าอาวาสวัดอู่ล่องด้วยว่าเข้าข่ายใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่

ล่าสุด วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีข้อเสนอให้ “ชะลอการดำเนินการขับไล่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของชาวบ้านในพื้นที่พิพาท” จนกว่ากระบวนการตรวจสอบสถานะที่ดินจะแล้วเสร็จ พร้อมขอให้จังหวัดรายงานผลการดำเนินงานกลับมายังคณะกรรมาธิการภายในวันที่ 4 สิงหาคม 2568

คณะกรรมาธิการฯ เน้นย้ำว่า กรณีนี้ควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องสิทธิของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่มาอย่างยาวนาน และอยู่ระหว่างกระบวนการขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมายของ ส.ป.ก. พร้อมยืนยันว่าจะติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด