เขากระโดงเดือด! ชาวบ้านลุกฮือฟาดรัฐ ปมที่ดินรถไฟ – อัด ‘ภูมิธรรม’ ไร้ฝีมือ
1 min read
บุรีรัมย์ – ชาวบ้านกว่า 300 คน รวมตัวประท้วงเดือดกลางสนามช้างอารีนา ปมการรถไฟอ้างสิทธิ์ครอบครองที่ดินกว่า 5,000 ไร่ในพื้นที่ “เขากระโดง” จวกรัฐบาลบริหารล้มเหลว จี้ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ แสดงความรับผิดชอบ ลั่นไม่ยอมสละสิทธิ์เด็ดขาด ด้านนักกฎหมายเปิดข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่ได้ตัดสินผูกพันที่ดินประชาชน
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านกว่า 300 คน จากผู้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 995 ราย ซึ่งครอบครองหรืออยู่อาศัยในที่ดินแนวเขตบริเวณภูเขากระโดง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันที่สนามฟุตบอลช้างอารีนา ก่อนเคลื่อนขบวนลงพื้นที่จริง เพื่อแสดงพลังต่อต้านการอ้างสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งระบุว่าพื้นที่กว่า 5,083 ไร่นั้น เป็นของรัฐ และผู้ครอบครองถือว่าบุกรุก



การชุมนุมครั้งนี้ มีทั้งนักกฎหมาย นักธุรกิจท้องถิ่น และชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์เข้าร่วม โดยนายทิวา การกระสัง ทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาที่มีการกล่าวอ้างนั้น “ไม่ผูกพัน” ต่อประชาชน การรถไฟ หรือกรมที่ดินแต่อย่างใด เพราะเป็นคำพิพากษาที่ไม่ใช่ของศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ได้มีผลบังคับใช้ในลักษณะทั่วไป
“ประชาชนในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ออกโดยกรมที่ดิน ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ การที่รัฐบาลใช้คำว่าบุกรุกพื้นที่หลวงโดยอ้างคำพิพากษาศาลฎีกา ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง” นายทิวา กล่าว
ด้านชาวบ้านจำนวนมากต่างแสดงความไม่พอใจต่อการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า “บริหารงานไม่เป็น” และปล่อยให้กลไกรัฐกดทับประชาชน
นายสนิท สมอินทร์ อายุ 73 ปี หนึ่งในผู้เดือดร้อน เปิดเผยว่า ตนอยู่ในพื้นที่มาก่อนจะมีการอ้างสิทธิ์โดยการรถไฟ และถือเอกสารสิทธิ์ถูกต้องมาเกือบ 60 ปี “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้รัฐถึงกล้าเรียกเราว่าบุกรุก ขณะที่ตอนเจรจาชายแดนกับเขมรยังพูดดี แต่มากดขี่คนไทยด้วยกัน”
ขณะที่นายชนินทร์ แก่นหิรัญ นักกฎหมายอิสระ ให้ความเห็นว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องซับซ้อนทางกฎหมายที่ประชาชนไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นจำเลยของรัฐ “ถ้ากรมที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ ก็แปลว่าประชาชนควรได้รับการคุ้มครอง ไม่ใช่ไล่รื้อ”
ภายหลังการประชุม ชาวบ้านและนักกฎหมายได้ลงพื้นที่พิสูจน์หลักฐาน โดยชี้ว่าเอกสารสิทธิ์ส่วนใหญ่ออกตั้งแต่ก่อนปี 2460 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการรถไฟเข้ามาอ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่
บรรยากาศเต็มไปด้วยความไม่พอใจ หลายคนถือเอกสารสิทธิ์ตะโกนเรียกร้องความเป็นธรรม พร้อมประกาศจะเดินหน้าทวงสิทธิ์ต่อจนกว่าจะได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจนจากรัฐบาล



ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัด บุรีรัมย์