ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมชาวตำบลคลองตำหรุร่วมปลูกต้นต้นลำแพนพันธุ์ไม้หายาก เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม
1 min read
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 สิงหาคม 2568 ริมคลองตำหรุ ถนนนาเกลือ หมู่ที่ 1 ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดเนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม โครงการส่งเสริมอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2568 กิจกรรม ลดเมืองร้อนด้วยมือเรา โดยมีนายอิฏฐาทรัพย์ อายุเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลคคลองตำหรุ พร้อมชาวบ้านตำบลคลองตำหรุ และบริษัทห้างร้าน จำนวนกว่า 300 คน ร่วมกันปลูกต้นรำแพน ตลอดแนวชายคลองป่าชายเลน โดยโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกิจกรรมวันนี้ได้มีการปลูกต้นลำแพน จำนวน 300 ต้น ซึ่งเป็นไม้ป้าชายเลนเป็นไม้ต้นไม่ผลัดใบ มีลำต้นสูงประมาณ 6-25 เมตร เปลือกลำต้นเรียบ สีน้ำตาลอมชมพูหรือเทา และมีการแตกล่อนเป็นสะเก็ด ลำต้นแตกกิ่งในระดับต่ำ แตกกิ่งจำนวนมากจนแลดูเป็นทรงพุ่มใหญ่ กิ่งแขนงมีลักษณะกลม และมีข้ออวบอ้วนเป็นช่วงๆ เนื้อไม้ของกิ่งเปราะหักง่าย ส่วนรากประกอบด้วยรากแก้ว และรากแขนง โดยรากแขนงประกอบด้วยรากแขนงในดิน และรากแขนงชนิดรากหายใจ ซึ่งจะโผล่พ้นน้ำตั้งตรงขึ้นเหนือน้ำ รากหายใจมีลักษณะรูปกรวยคว่ำ สูง 20-40 เซนติเมตร โคนรากอวบใหญ่ ปลายรากแหลมทู่ เปลือกรากมักแตกร่อนเป็นสะเก็ดสีน้ำตาลอมชมพู และพืชประจำถิ่นที่สามารถเติบโตได้ดีในพื้นที่ดินเลนชุ่มน้ำ ต้นลำแพนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายส่วน ใบหรือผลต้มน้ำดื่ม ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง ท้องเสียจากอาหารเป็นพิษ และต้นละแพนยังมีสรรพคุณและประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น ผล ผลลำแพนมีรสเปรี้ยวอมฝาด จึงนิยมใช้ทำผลไม้ดองเค็ม และผลยังใช้ทำขนมลำแพนกวนได้อีกด้วย ก้านเกสรตัวผู้ของดอกกำลังบาน สามารถนำมาลวกเป็นผักคู่กับข้าวหรือใช้ประกอบอาหารได้เช่นกัน


นอกจากนี้ลำต้นและกิ่งของต้นลำแพนยังนำมาใช้ทำฟืนหุงต้มหรือนำมาเผาเป็นถ่าน สามารถใช้ในครัวเรือนได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าต้นลำแพนเป็นไม้มงคลและหากยากด้วย และสามารถเป็นแหล่งอาหารให้คนในชุมชน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดภาวะโลกร้อน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้กับชุมชนชาวคลองตำหรุอีกด้วย



ภาพ/ข่าว วิศาล แสงเจริญ
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชลบุรี