กองทัพภาคที่ 1 เตือนกัมพูชา “อย่าล้ำเส้น” หลังพบการรื้อรั้วลวดหนาม หากฝ่าฝืนจับกุมทันที

วันที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 1 แถลงข่าวกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา หลังกลุ่มชาวกัมพูชาเข้ามารื้อรั้วลวดหนามของฝ่ายไทยในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว พร้อมก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน จนทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

พลตรีสุรวิชญ์ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็น “การจัดฉาก” ที่มีการเกณฑ์ชาวบ้าน เด็ก ผู้หญิง และพระสงฆ์เข้ามาเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่อย่างจงใจ เพื่อสร้างภาพว่าไทยใช้ความรุนแรง ทั้งที่ความจริงคือฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้รุกล้ำและทำลายแนวป้องกันของไทย

โฆษกกองทัพภาคที่ 1 ย้ำว่า ไทยยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศ ทั้ง 13 ข้อที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และ 11 ข้อที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) โดยเฉพาะการห้ามใช้กำลังทหารและการงดเว้นการยั่วยุทุกชนิด อย่างไรก็ตาม หากมีการฝ่าฝืนซ้ำอีก ไทยพร้อมใช้มาตรการทางกฎหมายและบังคับใช้โดยเด็ดขาดทันที

“แม่ทัพภาคที่ 1 กำชับกำลังพลทุกนาย หากมีการบุกรุกหรือทำลายแนวลวดหนามอีก ให้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ลังเล” พลตรีสุรวิชญ์ กล่าวย้ำ

การแถลงครั้งนี้มีขึ้น หลังเพียงหนึ่งวันก่อนหน้า ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้หารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา เพื่อหาทางออกระดับพื้นที่ โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์ร่วมจากทั้งสองประเทศลงตรวจสอบแนวลวดหนามในช่วงบ่าย แต่ไม่นานหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ฝ่ายกัมพูชากลับเคลื่อนกลุ่มชาวบ้านเข้ามาก่อเหตุซ้ำ และในช่วงค่ำยังนำคณะผู้สังเกตการณ์กลับเข้าพื้นที่อีกครั้ง เพื่อพยายามสร้างสถานการณ์โจมตีไทยบนเวทีนานาชาติ

พลตรีสุรวิชญ์ ย้ำปิดท้ายว่า กองทัพภาคที่ 1 จะยังคงยึดมั่นการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี และการทูตเชิงทหารเป็นหลัก แต่จะปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกำลัง โดยไม่มีวันถอย