ศาลปกครองแจงขั้นตอนคดี “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำอำนาจ ปธ.ศาลปกครองสูงสุดเห็นสมควรนำเข้าที่ประชุมใหญ่

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 สำนักงานศาลปกครองออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ตนออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมทั้งขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าว

โดยศาลปกครองสูงสุด ที่ประชุมใหญ่ตุลาการได้มีคำสั่งยกคำขอทุเลาแล้ว ขณะที่ประเด็นเนื้อหาคดียังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์คณะตุลาการ

สำนักงานศาลปกครองระบุว่า ประธานศาลปกครองสูงสุดมีอำนาจตามกฎหมายในการกำกับดูแล ตรวจกลั่นกรองร่างคำพิพากษา จัดทำข้อสังเกตให้ทบทวน รวมถึงบริหารจัดการคดีคั่งค้าง ซึ่งได้มีการมอบอำนาจให้รองประธานศาลปกครองสูงสุดและประธานแผนกในศาลปกครองสูงสุดปฏิบัติหน้าที่แทนโดยทั่วไป ไม่ได้จำกัดเฉพาะคดีใดคดีหนึ่ง

ทั้งนี้ คดีที่มีความสำคัญ เช่น เกี่ยวข้องกับหลักกฎหมายสำคัญ อาจเปลี่ยนแนวคำวินิจฉัยเดิม มีทุนทรัพย์สูง หรือเป็นที่สนใจของสังคมและสื่อมวลชน จะต้องเสนอให้ประธานศาลปกครองสูงสุดพิจารณาโดยตรง

สำหรับการนำคดีเข้าสู่การประชุมใหญ่ตุลาการ มาตรา 68 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ กำหนดว่าเป็นไปตามดุลพินิจของประธานศาลปกครองสูงสุด ไม่จำกัดเฉพาะกรณีที่องค์คณะกับผู้ตรวจกลั่นกรองมีความเห็นไม่ตรงกันเท่านั้น

สำนักงานศาลปกครองยังเตือนว่า คู่ความหรือบุคคลใด ๆ ไม่สามารถนำกระบวนการหรือขั้นตอนภายในระหว่างการพิจารณาคดีไปเผยแพร่สู่สาธารณะได้ เนื่องจากอาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล