“ศรีสะเกษอ่วม! ‘หาดนางเหงา’ น้ำมูลเอ่อท่วม แพท่องเที่ยวปิดระนาว แม่ค้าครวญขาดทุนยับ – ชลประทานเร่งเตือนเฝ้าระวัง”

“ศรีสะเกษ” หาดนางเหงา ระทม! น้ำท่วมสูงไหลเอ่อ นักท่องเที่ยวผวาไม่กล้าลงแพ แม่ค้าโอดขาดขาดทุนยับ ขณะที่ชลประทานแจ้งเตือนเฝ้าระวัง

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีพายุฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ประริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 16 แห่ง มีปริมาณน้ำเกินความจุเก็บกัก 100% และล้นสปิลเวย์ แล้ว จำนวน 12 แห่ง และอีก 2 แห่ง มีปริมาณน้ำเก็บกักเกินกว่า 80% ส่วนอีก 2 แห่ง ยังคงมีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 80% ส่งผลทำให้มวลน้ำล้นอ่างเก็บน้ำไหลลงมาตามลำห้วย เข้ามาสมทบกับลำน้ำมูล ทำให้ปริมาณน้ำแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมีมวลน้ำที่ท่วม จาก อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และลำน้ำชี เข้ามาเสริม ทำให้ระดับน้ำบริเวณเขื่อนหัวนา อ.กันทรารมย์ สูงขึ้น และเริ่มเอ่อล้นสปิลเวย์

โดยเฉพาะที่หาดนางเหงา ต.ดูน อ.กันทรารมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ อ.กันทรารมย์ มีผู้ประกอบการแพร้านอาหาร ทั้งหมด จำนวน 11 ราย และขณะนี้ต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวไปแล้ว 8 ราย เพราะหวั่นกระแสน้ำไหลเชี่ยว เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และพนักงานในระยะนี้

นางสาย บุพผา อายุ 51 ปี ผู้ประกอบการแพร้านน้องแก้วน้องกาย กล่าวว่า หลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันที่ผ่านมา ทำให้น้ำในลำน้ำมูลสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเอ่อท่วมลานจอดรถในพื้นที่ลุ่มต่ำ ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดให้บริการชั่วคราวมาแล้ว 3 วัน เพื่อไปประกอบอาชีพอย่างอื่นจนกว่าน้ำจะลดระดับลงเป็นปกติ ปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่เพียง 3 ร้าน เดิมทีลูกก็น้อยอยู่แล้ว เพราะพิษเศรษกิจ ยิ่งมาเจอปัญหาน้ำท่วมซ้ำอีก ก็ยิ่งซ้ำเติมพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการไปกันใหญ่ ทั้งขาดทุน ไม่มีลูกค้า เนื่องจากน้ำลึกมากและไหลเชี่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าลงไปนั่งในแพกลางน้ำ เพราะเกรงจะได้รับอันตราย ทำให้ยอดขายอาหารลดฮวบ บางวันไม่ได้ขายเลยสักบาท คาดว่า หากระยะนี้ ฝนไม่ตกลงมาอีก ไม่นานระดับน้ำจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ

ด้าน นายไพฑูรย์ ยังรักษา ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา (เขื่อนหัวนา) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ M7 อุบลราชธานี พบว่า ในพื้นที่ฝั่ง อ.วารินชำราบ มีระดับน้ำเกินระดับตลิ่ง แล้ว 12 เซนติเมตร แต่ยังต่ำกว่าตลิ่ง 88 เซนติเมตร ในฝั่ง อ.เมืองอุบลราชธานี ทั้งนี้ ในภาพรวม โขง ชี มูล พบว่า แม่น้ำโขง ระดับน้ำยังต่ำ สามารถรับน้ำจากแม่น้ำมูลได้ โดยที่ท้ายเขื่อนปากมูล สูงกว่าแม่น้ำมูล อยู่ประมาณ 1.48 เมตร ขณะนี้ แม่น้ำชี ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และระบายลงสู่แม่น้ำมูล

ส่วน แม่น้ำมูล ในเขต จ.ศรีสะเกษ ที่สถานีวัดน้ำ M7 และ M182 ยังสามารถรองรับได้ เขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล และเขื่อนหัวนา อ.กันทรารมย์ จึงมีการระบายน้ำอย่างจำกัด โดยทาง เขื่อนราษีไศล เปิดบานประตูระบายน้ำ 1.8 เมตร จำนวน 7 ช่องบาน ส่วนที่ เขื่อนหัวนา แห่งนี้ ได้เปิดบานประตูระบายน้ำ ระดับ 3 เมตร จำนวน 9 ช่องบาน และ 2 เมตร จำนวน 5 ช่องบาน ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือลดผลกระทบ ในเขต อ.เมืองอุบลราชธานี และอ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

ด้าน นายจำรัส สวนจันทร์ ผอ.โครงการชลประทานศรีสะเกษ เปิดเผยว่า 3 ลุ่มน้ำใน จ.ศรีสะเกษ ที่ต้องเฝ้าระวัง ในช่วงระยะนี้ ได้แก่ ลุ่มน้ำห้วยทับทัน ซึ่งต้นน้ำไหลมาจาก จ.สุรินทร์ โดยคาดว่าคืนนี้ (วันที่ 25 ก.ย. 68) จะล้นตลิ่ง รวมถึงลุ่มน้ำอื่นๆเช่นกัน เนื่องจากพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นพื้นที่ภูเขา เทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ มีความชุ่มชื้นสูง และมีความลาดชัน ของพื้นที่มาก ความเร็วกระแสน้ำ จึงมีความรุนแรงในบางพื้นที่ จึงให้เฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มต่ำและบริเวณถนนที่ตัดผ่านทางน้ำ และล่าสุด ให้เฝ้าระวังพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ ตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา ซึ่ง ปัจจุบัน เกิน 100% และน้ำ กำลังระบายผ่านสปิลเวย์ โดยที่ผ่านมา ทางโครงการชลประทานศรีสะเกษ ได้มีการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน

        

        Loading...