จันทบุรี คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กลุ่มภาคตะวันออก ลงพื้นที่พบประชาชน
1 min read
ที่โรงเรียนบ้านโชคดี ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี นางกานต์เปรมปรีดิ์ ชิตานนท์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดจันทบุรี เป็นหัวหน้าคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน(สว.พบประชาชน) ลงพื้นที่ติดตามปัญหาการบุกรุป่าในพื้นที่อำเภอขลุง โดยในช่วงเช้าได้เดินทางไปดูพื้นที่การบุกรุกป่าบริเวณบ้านเขาขาด ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี จากนั้นได้พบปะประชาชนและส่วนราชการในพื้นที่ โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายอำเภอขลุง หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ ความคืบหน้าการดำเนินงาน คณะสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ได้ชี้แจงถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ว่าปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในพื้นที่อำเภอขลุง เพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก จากปี 2567 มีพื้นที่บุกรุกทั้งสิ้น 11 คดี ประมาณ 100 กว่าไร่ ปี 2568 มีคดีทั้งสิ้น 28 คดีรวมเนื้อที่กว่า 1,700 ไร่ เป็นที่บุกรุกใหม่ เปิดป่าใหม่ ซึ่งการที่คณะฯ ลงพื้นที่มาในวันนี้เพื่อเป็นการติดตามสถานการณ์ และพบปะพูดคุย รับฟังปัญหา ความเดือนร้อนต่าง ๆ ของประชาชนในพื้นที่ ไปสะท้อนยังหน่วยงานหรือรัฐบาล ตามกระบวนการของวุฒิสภา เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้เป็นรูปธรรมต่อไป โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการรายงานถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวว่า ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด และในส่วนของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธารฯ อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ไม่ยอมรื้อถอนหรือย้ายออกนอกพื้นที่ มีการยืดระยะเวลาให้ชาวสวนที่ปลูกทุเรียนในพื้นที่ป่าสงวนจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

ในการนี้ได้มีประชาชนสะท้อนปัญหาเรื่องการบุกรุกป่าเพื่อทำกินในพื้นที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธารฯ ที่ต้องการความชัดเจนในเรื่องการให้ความช่วยเหลือเยียวยา หรือผ่อนผันจากทางราชการ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว ขอให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อเท็จ หากใครมีหลักฐานว่ามีสิทธิ์ทำกินในพื้นดังกล่าวหรือเข้ามาอยู่ก่อนโครงการฯ ก็ให้นำมายืนยันชี้แจงเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ต่อไป ทั้งนี้ได้ฝากทางสมาชิกวุฒิสภาให้ไปผลักดันรัฐบาลให้เร่งปรับปรุงแผนที่แนวเขต (ONE MAP) เพื่อให้เกิดความชัดเจน การปฏิบัติงานของหน่วยงานเป็นมาตรฐานเดียวกัน และจะสามารถแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าได้อย่างยั่งยืน

จากนั้นในช่วงบ่าย คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนฯ ได้เดินทางไปรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่ทำกินของประชาชน ที่ว่าการอำเภอมะขาม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปและสะท้อนปัญหาช้างในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งตรวจพบมีช้างป่าจำนวนทั้งสิ้น 237 ตัว และพบที่อำเภอ 20 ตัว ปัญหาที่พบคือ ปัจจุบันช้างป่าลงมาในพื้นที่ทางการเกษตร และทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บและสูญเสียชีวิต บ่อยขึ้น เนื่องจากในป่าไม่มีอาหารเพียงพอ ดั้งนั้นจึงได้มีการเสนอให้ทางคณะ สว. เสนอหน่วยงานภาครัฐและรัฐบาลให้จัดสรรงบประมาณลงมาเพื่อสร้างแหล่งอาหารให้ช้างป่า ทำคันกั้นช้าง จัดหาอุปกรณ์และสวัสดิการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราการช่วยเหลือเยี่ยวยาแก่พื้นที่เกษตรของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบให้มากขึ้น ซึ่งคณะ สว.รับปากจะนำเรื่องดังกล่าวไปสะท้อนในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ต่อไป

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พสิษฐ์ เขม้นเขตวิทย์ รายงาน ศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก