อายัดทัน! 3.5 แสนบาท นําคืนผู้เสียหายถูกเพจปลอม หลอกลงทุน
1 min read
ตํารวจไซเบอร์รวบเครือข่ายเพจปลอม “โอ้กระจู๋” หลอกเหยื่อลงทุน สูญเงินกว่า 5 แสนบาท ตามอายัดทัน 3.5 แสน นําคืนผู้เสียหาย
วันนี้(29 ก.ค. 68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายเพจปลอมอ้างชื่อ “โอ้กะจู๋” หลอกลงทุนเสียหายกว่า 5 แสนบาท
โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 68 ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ว่า พบเพจเฟซบุ๊กชื่อ “โอ้กะจู๋” มีการโฆษณาเปิดลงทุนให้ผลตอบแทนดี ผู้เสียหายสนใจจึงติดต่อไปพร้อมกับแจ้งรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวต่างๆ จากนั้นคนร้ายได้แจ้งให้โอนเงินเข้าระบบแล้วจะได้รับเงิน
ปันผลตอบแทนทุกสัปดาห์ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเริ่มโอนเงิน จากนั้นคนร้ายได้หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มเรื่อยๆ จนสุดท้ายพบว่าไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยคนร้ายอ้างว่าต้องโอนจ่ายค่าคอมมิชชันเพิ่มเติมเพื่อปลดล็อคระบบจึงจะถอนเงินได้ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอก รวมมูลค่าความเสียหายจำนวน 567,980 บาท
จากกรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวได้บางส่วน โดยดำเนินคดีในข้อหา “”ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายสุพัฒน์ อายุ 23 ปี หนึ่งในขบวนการได้ที่บริเวณริมถนนภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายสุพัฒน์ ที่ผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวเพื่อลงทุนตามที่ถูกหลอกลวง เป็นเงินจํานวน 350,000 บาท โดยหลังรับทราบ
ข้อกล่าวหา นายสุพัฒน์ ให้ถ้อยคำว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้และไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ โดยยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดีจึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวน
350,000 บาท มอบคืนให้แก่ผู้เสียหาย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน” ซึ่งโครงการดังกล่าวที่ผ่านมาตํารวจไซเบอร์สามารถอายัดบัญชีและคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายแล้วกว่า 230 ล้านบาท