บช.ปส.เปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกมาเฟียข้ามชาติ” ทลาย 4 เครือข่ายค้ายารายใหญ่ รวบ 40 ผู้ต้องหา ยึดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) แถลงผลยุทธการ “เด็ดปีกมาเฟียข้ามชาติ” หลังเปิดปฏิบัติการเชิงรุกตลอดเดือนพฤศจิกายน 2568 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ DEA และหน่วยงานต่างประเทศ ไล่บี้การค้ายาเสพติดข้ามชาติทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวม 4 คดี จับผู้ต้องหา 40 ราย พร้อมยึดทรัพย์รวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมี พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานแถลงข่าว ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลภายใต้นโยบาย “ต้องชนะยาเสพติด” ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติที่คุกคามความมั่นคงของประเทศ

ปฏิบัติการครั้งนี้สามารถขยายผลคดีสำคัญได้ 4 คดี เริ่มจาก คดีที่ 1 จับกุมนายเอ็นซูเบ ชาวไนจีเรีย แก๊ง Romance Scam ที่ปลอมตัวเป็นชายชาวเกาหลีหลอกหญิงชาวยุโรปซึ่งพิการหูหนวก–เป็นใบ้ ให้เดินทางมาไทยเพื่ออ้างว่าจะพาไปจดทะเบียนสมรสที่เบลเยียม แต่ตรวจค้นพบแอบซุกโคเคน 5.7 กิโลกรัมในกระเป๋าเดินทางของเหยื่อเพื่อใช้เป็นคนขนยาโดยไม่รู้ตัว เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้ทันก่อนประสานสถานทูตฮังการีนำผู้เสียหายกลับประเทศ พร้อมดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมาย

คดีที่ 2 บก.ปส.1 ร่วมกับ DEA ทลายเครือข่ายส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 ไปยังสหรัฐฯ และหลายประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 11 ราย พร้อมของกลาง 185,328 เม็ด และตรวจยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท

คดีที่ 3 ขยายผลเครือข่ายจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ “หมอแอร์” ที่หลุดออกจากระบบควบคุม บก.ปส.1 ประสาน อย. นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 25 ราย ครอบคลุมตั้งแต่แพทย์ นักกายภาพบำบัด ครู ผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย พบของกลางรวม 219,780 เม็ด พร้อมยึดทรัพย์เพิ่มกว่า 525 ล้านบาท ถือเป็นคดีสำคัญที่สะท้อนการนำยาควบคุมไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ในวงกว้าง

คดีที่ 4 บก.ปส.2 เปิดยุทธการทลายขบวนการ “พอต K ทุนจีนสีเทา” ที่ทำตั้งแต่ผลิต–จำหน่ายแบบครบวงจร ตั้งฐานปฏิบัติการในคอนโดหรูย่านพัทยา–กรุงเทพฯ ใช้วิธีซุกซ่อนยาในพัสดุอาหารสัตว์ ส่งผ่านขนส่งด่วนเพื่อกระจายสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ผลการจับกุมใน 3 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 พัทยา ล่อซื้อที่คอนโด The Trust South Pattaya จับกุม Mr. Liu Yisheng พร้อมพอต K จำนวน 100 หัว จุดที่ 2 ห้วยขวาง–ดินแดง จับ Mr. Liu Huowen พบอุปกรณ์ผลิตและเบาะแสสำคัญของเครือข่าย และจุดที่ 3 คอนโดศุภาลัย ปาร์ค แคราย–งามวงศ์วาน นนทบุรี ตรวจพบแหล่งผลิตและโกดังใหญ่ จับเพิ่มอีก 2 ราย ของกลางรวม พอต K 2,386 หัว วัตถุออกฤทธิ์ “อิโทมิเตต” 716 กรัม ไอซ์ 12.2 กรัม พอตว่าง 5,390 หัว และเงินสดหลายสกุลรวมมูลค่านับล้านบาท

ปฏิบัติการทั้งหมดสะท้อนความร่วมมือระหว่างประเทศและความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ไทยในการตัดวงจรเครือข่ายค้ายาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติที่ซ่อนตัวอยู่ในประเทศอย่างเป็นระบบ