“ธรรมราช” ยื่นดีเอสไอสอบทุจริตสอบท้องถิ่น จี้ระงับสอบทั่วประเทศ 7 ธ.ค. หลังพบพิรุธ-เรียกเงินแลกตำแหน่ง
1 min read
วันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 13.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ทนายธรรมราช สาระปัญญา พร้อมทีมงาน เข้ายื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ผ่าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษกดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำเนินการสอบแข่งขันบรรจุพนักงานส่วนท้องถิ่นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) และมหาวิทยาลัยผู้จัดสอบ หลังพบพฤติการณ์เข้าข่ายทุจริตและมีการเรียกรับเงินผู้สมัคร พร้อมยื่นขอให้พิจารณาระงับการสอบทั่วประเทศในวันที่ 7 ธ.ค.นี้
ทนายธรรมราชระบุว่า ได้รับร้องเรียนจากผู้สมัคร ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากว่าเกิดความผิดปกติในขั้นตอนรับสมัครและการจัดสอบ จึงนำหลักฐาน เช่น คลิปเสียงสนทนาที่ส่อทุจริต รายชื่อผู้ถูกเรียกรับเงินเพื่อแลกตำแหน่ง เอกสารเกี่ยวกับการสอบครั้งนี้ มายื่นประกอบคำร้องต่อดีเอสไอ
ทั้งนี้ ปัญหายืดเยื้อมาตั้งแต่การสอบบรรจุช่วงปี 2566–2568 ซึ่งหลายหน่วยงานท้องถิ่น เช่น อบต. เทศบาล และอบจ. ยังไม่สามารถบรรจุพนักงานได้ โดยพบข้อสงสัยว่าการว่าจ้างมหาวิทยาลัยผู้จัดสอบอาจมีการ “ล็อกสเปก” เพราะคุณสมบัติของผู้ได้รับการคัดเลือกไม่ผ่านเกณฑ์ตามระเบียบ แต่คณะกรรมการกลับใช้ดุลยพินิจอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้
ทนายธรรมราชเผยอีกว่า ขั้นตอนจัดสอบครั้งนี้มีข้อพิรุธหลายจุด ทั้งการกำหนดคุณสมบัติที่เอื้อให้ควบคุมการสอบได้ เพื่อผลักดันบุคคลบางกลุ่มเข้าสู่ตำแหน่งข้าราชการถาวร เชื่อมโยงอำนาจทางการเมือง และผลประโยชน์จากโครงการจัดซื้อจัดจ้างในอนาคต นอกจากนี้ยังพบการเรียกเก็บเงินจากผู้สมัคร โดยอ้างว่าจะจัดให้ติดบัญชีบรรจุ ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายผลประโยชน์ที่สร้างความเสียหายต่อระบบราชการและประเทศ
ทนายธรรมราชระบุว่า มหาวิทยาลัยที่ได้รับเลือกควรต้องผ่านการจัดสอบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง และมีบุคลากรประมาณ 8 หมื่นคนพร้อมเครื่องมือในการตรวจสอบ แต่กลับมีมหาวิทยาลัยหนึ่งซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ได้รับงานสอบครั้งนี้ โดยมีผู้สมัครทั่วประเทศกว่า 4 แสนราย ค่าสมัครคนละ 420 บาท รวมตำแหน่งที่เปิดรับกว่า 15,000 อัตราใน 31 สายงาน
เขายังเปิดเผยข้อมูลว่ามีกลุ่มนักการเมืองภาคอีสานเสนอ “โควต้า” จำนวน 1,500 อัตรา ในราคา 350,000 บาทต่อราย คิดเป็นเงินหมุนเวียนสูงกว่า 4,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบางพื้นที่ เช่น ภาคใต้กำลังประสบอุทกภัยและมีการเลื่อนสอบเฉพาะพื้นที่ ซึ่งอาจเสี่ยงทำให้ข้อสอบรั่วไหล จึงตั้งคำถามว่าทำไมไม่เลื่อนสอบพร้อมกันทั่วประเทศเพื่อความโปร่งใส
ทนายธรรมราชย้ำว่า การสอบครั้งนี้มีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นภัยต่อระบบราชการและการปกครอง จึงขอให้ดีเอสไอเร่งตรวจสอบและพิจารณาระงับการจัดสอบวันที่ 7 ธ.ค. ก่อนเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศและประชาชน
