ปทุมธานี ชาวหมู่บ้านร้องผู้ว่าฯหลังถูกบริษัทเจ้าของโครงการทอดทิ้งมากว่า 30 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 68 ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี ได้มีกลุ่มชาวบ้านกว่า 50 คน มาร่วมประชุมกันที่บริเวณลานถนนทางเข้าออกหน้าหมู่บ้าน โดยมี น.ส.สุมิตตรา ตัวแทนสมาชิกของหมู่บ้าน เป็นผู้ทำหนังสือถึงชาวหมู่บ้านโดยมีใจความว่า เรียนสมาชิกชาวหมู่บ้าน เรื่อง เรียกประชุมเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนกลางของหมู่บ้าน ที่ได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการ การจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ตามกฎหมายบ้านจัดสรร การแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสีย สาธารณูปโภคและพื้นที่สาธารณะประโยชน์ส่วนกลาง เช่น สนามฟุตบอล สถานที่ออกกำลังกาย สนามเปตองและสถานที่จอดรถ โดยขอให้ชาวหมู่บ้านทุกคนมาร่วมกันรับฟัง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของหมู่บ้านและร่วมประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้าน การจัดการที่ดินสาธารณะและทรัพย์สินส่วนกลางของหมู่บ้าน ที่ยังไม่ได้รับการโอนจากบริษัท โดยทางหมู่บ้านได้เชิญทนายวสันต์ ฝีมือช่าง และ ทนายสุเทพ มะลิวัลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาให้ความรู้และข้อเท็จจริง

หลังจากที่ทางทนายวสันต์ฯ และ ทนายสุเทพฯ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องปัญหาของหมู่บ้านที่สะสมมานานและให้ความรู้ความเข้าใจกับข้อกฎหมาย พร้อมตอบข้อซักถามกับชาวบ้านจนเป็นที่เข้าใจแล้ว ชาวบ้านทั้งหมดจึงได้แยกย้ายกันกลับ

น.ส.สุมิตตรา ตัวแทนสมาชิกของหมู่บ้าน กล่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยทำหนังสือร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตั้งแต่ปี 2561และติดตามเรื่องมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข หรือดำเนินการ จนล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พ.ย 68 ตนก็ได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่ถูกบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของโครงการของหมู่บ้าน ที่มีการทอดทิ้งปัญหาไปกว่า 30 ปี โดยทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี , ศูนย์อำนวยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัด , สำนักนายกรัฐมนตรี , สำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานีและสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อให้ทางหน่วยงานทั้งหมดที่ตนได้ยื่นหนังสือนั้น ให้มาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวหมู่บ้าน เนื่องจากหมู่บ้านนั้นได้มีการปลูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี 2531 โดยได้มีบริษัทแห่งหนึ่งเป็นเจ้าของโครงการและผ่านมา 30 กว่าปี ก็ไม่มีการทำตามสัญญา เกี่ยวกับเรื่อง สาธารณูปโภค ต่างๆตามที่เคยมีใบโบรชัวร์ ไม่ว่าจะเป็นการที่จะสร้าง อนามัย โรงเรียนอนุบาล สนามเด็กเล่น สนามฟุตบอล บ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัท ก็ไม่ได้มาดำเนินการแต่อย่างใด มิหนำซ้ำ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางบริษัทยังได้เอารถมาปรับพื้นที่กั้นรั้วและปักป้ายขายที่ดินสาธารณะของหมู่บ้านอีก ดังนั้นทางหมู่บ้านจึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและวันนี้ก็ได้เชิญทาง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มาให้ความรู้กับชาวบ้าน สำหรับหนังสือที่ทำไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ มี 3 ข้อหลักคือ 1.โอนคืนพื้นที่สนามเด็กเล่นสวนสาธารณะให้กับหมู่บ้าน 2.โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสาธารณะประโยชน์ตามสัญญาโครงการจัดสรรให้กับหมู่บ้านหรือเป็นของหลวง 3.ติดตามข้อเรียกร้องเดิมให้ทำสัญญาในโครงการหมู่บ้านจัดสรร

สมเกียรติทรัพย์เฉลิม รายงาน